Copshop (2021)
แฟรงก์ กริลโล ถูก เจอราร์ด บัตเตอร์ กับ โทบี้ ฮัส ตามไล่ฆ่า และมีเพียงตำรวจหญิงจอมอึด ที่รับบทโดยอเล็กซี ลาวเดอร์ เพียงคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ในตัวอย่างหนังบู๊ตลกร้าย “Copshop” ของผู้กำกับโจ คาร์นาแฮนหนังแอ็กชันที่ว่าด้วยสถานการณ์คับขันวุ่นวายในสถานที่ปิดล้อมยังคงใช้ได้ผลเสมอ ถ้าอยู่ในมือผู้กำกับที่มีประสบการณ์ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ไม่หน่อมแน้มเกินไปนัก หนังในทำนองที่ว่านี้เด่น ๆ ก็มี Assault on Precint 13 หรือ Die Hard และมาถึง Copshop ก็เป็นอีกเรื่องที่ว่าด้วยความวุ่นวายในสถานที่จำกัด เรื่องนี้ที่ได้ผู้กำกับขาเก๋าอย่าง โจ คาร์นาฮาน (Joe Carnahan) มารับหน้าที่ ถ้าไล่เรียงผู้กำกับสายแอ็กชันของฮอลลีวูดแล้วล่ะก็ ดูหนังฟรี จะต้องมีชื่อของคาร์นาฮานอยู่ในลำดับต้น ๆ ดูหนังบู๊ เพราะผลงานที่ผ่านมาก็ล้วนรับประกันความมันส์ได้ชัดเจนอยู่แล้วทั้ง Narc, The A-Team, Smokin’ Aces และ The Grey เมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมี Boss Level เรื่องนี้คาร์นาฮานเหมาหน้าที่กำกับและดัดแปลงเนื้อหาที่ มาร์ก วิลเลียมส์ (Mark Williams) เขียนไว้มาเป็นบทภาพยนตร์ ดูหนังออนไลน์
เป็นหนังที่ไม่มีความคิดจะดูเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เห็นโปสเตอร์ แต่พอได้มาดูตัวอย่างแล้วความคิดเปลี่ยนทันที เพราะมันโคตรน่าดู ทั้งจังหวะการตัด คำพูดคำจา บทสนทนา่ อย่างกับหนัง Guy Ritchie ยังไงยังงั้น ลองคิดถึงดาราคิวบู๊อย่าง Gerard Butler กับ Frank Grillo ในหนัง Guy Ritchie ดิมันจะเป็นไง ต้องบันเทิงแน่ ๆ แต่พอได้ดูจริง ๆ ความคาดหวังทั้งหมดก็พังครืนลง
แค่จะเล่าเรื่องย่อยังยากเลย เอาเป็นว่านี่เป็นเรื่องราวของ Teddy Murretto (Frank Grillo) คนไม่ดีคนนึงที่ทำให้ตัวเองติดคุกเพื่อหนีการตามล่าจากคนไม่ดีคนอื่น แต่ดันมีนักฆ่านามว่า Bob Viddick (Gerard Butler) ทำให้ตัวเองติดคุกเหมือนกันเพื่อจะได้มาฆ่า Teddy และเรื่องราวความบรรลัยทั้งหมดจึงเกิดขึ้นในสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
แต่หนังทำไม่ถึงสักจุด แถมยังเล่นท่ายากกับเรื่องราวให้มันซับซ้อนทำไมก็ไม่รู้ เสียเวลาไปกับการสนทนาของตัวละครก็เยอะ ไม่รู้ว่าหนังได้แรงบันดาลใจมาจากหนัง Guy Ritchie หรือเปล่า เพราะมันมีกลิ่นเหมือน มีความพยายามจะเหมือนด้วยวิธีการเล่า แต่มันก็ทำไม่ถึง และบทหลายอย่างก็ไม่ได้ทำให้เราเข้าใจว่าใส่มาทำไมเหมือนกัน ทั้งเรื่องปูมหลังตัวละคร นิสัยตัวละคร การมาฆ่า และอีกมากมาย
นักแสดงอย่าง Frank Grillo กับ Gerard Butler ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่ก็ไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้มีบทยากให้โชว์ของอะไรเลย ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้น่าจดจำอะไรเลย
อีกตัวละครนึงที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวเลยก็คือ Anthony J. Lamb ที่เล่นโดย Toby Huss มากๆ เป็นอีกคนที่เล่นใหญ่ได้อร่อยมากๆ และตัวภาพยนตร์ก็เอื้ออำนวยกับบทของเค้ามากๆด้วย อีกตัวละครหนึ่งที่เด่นไม่แพ้กันก็คือ Viddick รับบทโดย Gerard Butler ครับ เป็นตัวละครที่ให้ความกดดันกับ Teddy ได้ดีและเป็นตัวละครที่ดำเนินเรื่องคู่กันกับตัวเอกไปจนจบเรื่อง ตัวละครตำรวจที่พอจะมีบทเด่นนั่นก็คือ Valerie Young รับบทโดย Alexis Louder ครับ ซึ่งเธอคนนี้เองก็จะเป็นหนึ่งใน Variable(ตัวแปล) หลักของเรื่องเลยครับเพราะตำรวจกับโจรเหมือนกับด้านที่ตรงกันข้ามกันแต่สิ่งที่มนุษย์คนเรามีเหมือนกันคือ ‘จิตใจ’ ครับ
เพราะในส่วนนี้ที่ผมได้ Mention(กล่าวอ้างถึง) ไปข้างต้นนั้นเองเนี่ยจะเล่นกับความเป็นตัวละครนั้นๆและความกดดันต่างๆที่ประเดประดังเข้ามา แต่ไม่ต้องห่วงว่าหนังจะดึงเราให้มีความเครียดอะไรขนาดนั้นครับเพราะตัวหนังมีการแทรกฉาก Comedy(ฮา) ตลอดทั้งเรื่อง โดยในส่วนของ Plot Twist หรือ การหักมุมนั้น หนังเรื่องนี้ค่อนข้างหลอกเราได้ดีเลยครับ เพราะเราเดาไม่ถูกว่าเหตุการณ์นี้เนี่ยจะไปจบที่ไหน การตัดสินใจของตัวละครจะเป็นไปในทิศทางใดตรงนี้ถ้าใครดูไปเรื่อยๆจะสนุกมากๆอยู่ครับเพราะหนังเอา Sequence(ลำดับ) ของเหตุการณ์ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ Teddy เข้าคุก จนถึงจุดหนึ่งที่เป็น Climax(ช่วงพีค ,ช่วงที่สนุกที่สุดของเรื่อง) ซึ่งบอกเลยว่า ‘เพลินมาก’ ครับ
ถามว่าคุ้มไหมถ้าให้เต็ม 100 ผมขอให้ที่ 65 / 100 ครับ คือค่อนข้างจะไปทางคุ้มแต่ไม่ได้มากขนาดที่ทำให้เราว้าวขนาดนั้น เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ พาเพื่อนๆ แฟนๆ ครอบครัว ไปดูกันได้ครับ (หมายถึงในช่วงเวลานั้นนะครับเพราะตอนนี้ภาพยนตร์ออกแล้ว) ถ้าใครยังไม่ได้ดูเนี่ย ถ้ามีช่องทางที่ถูกลิขสิทธิ์ ผมแนะนำให้หามาดูได้ครับ หาน้ำ หาขนมมากินข้าวไปดูไป เพลินแน่นอนครับรับประกัน
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยตัวละครที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง เท็ดดี้ มูเร็ตโต รับบทโดย แฟรงก์ กิลโล (Frank Grillo) นักต้มตุ๋นจอมกะล่อน ที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดอย่างหัวซุกหัวซุน เพราะอยู่เบื้องหลังการตายอัยการรัฐ มูเร็ตโตทำงานให้กับเจ้าพ่อคาสิโน เขาถูกส่งไปเป็นตัวกลางเจรจาจ่ายสินบนให้กับอัยการรัฐ แต่ถูกอัยการปฏิเสธ
เจ้าพ่อเลยส่งคนมาเก็บอัยการรัฐ มีหลักฐานมัดตัวมูเร็ตโต เขาเลยซัดทอดไปยังเจ้าพ่อที่เป็นผู้ว่าจ้าง กลายเป็นคราวซวยของจริง เมื่อเจ้าพ่อตั้งค่าหัวมูเร็ตโตไว้สูง มีมือปืนระดับพระกาฬทั่วทิศหมายหัวมูเร็ตโต ทำให้มูเร็ตโตจงใจสร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อให้ตำรวจเอาตัวเข้าคุก เพราะคิดว่าน่าจะเป็นที่ที่เขาปลอดภัยที่สุด และแล้วคุกใน สน.เล็ก นอกรัฐเนวด้าก็กลายเป็นสมรภูมิเดือด เมื่อมือปืนขาเก๋า 2 ราย ต้องมาห้ำหั่นกันเพื่อเอาชีวิตมูเร็ตโต้ที่อยู่ในห้องขัง
คาร์นาฮานเล่าเรื่องได้เข้มข้น เดินเรื่องเร็ว จัดหนักจัดเต็มในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 47 นาที เห็นชัดว่าถ้าหนังมีองค์ประกอบครบ ทั้งผู้กำกับและนักแสดงที่มีฝีมือ บทหนังที่ดี หนังก็สนุกได้โดยไม่ต้องใช้งบมากมายอลังการงานสร้าง แล้วเรื่องนี้ก็ได้ เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) มารับบทเป็น บ็อบ วิดดิก มือปืนรับจ้างมากประสบการณ์ ที่มาในลุคซกมกหนวดเครารุงรังซึ่งเป็นบทที่เหมาะกับบัตเลอร์มาก แบบหลับตาเล่นยังได้เลย มาประชันกับ แฟรงก์ กิลโล ขาประจำสายหนังแอ็กชันอีกคน ที่เพิ่งร่วมงานกับคาร์นาฮานมาใน Boss Level เราก็เลยได้เห็นตัวพ่อสายหนังแอ็กชัน 2 คนนี้มาสาดกระสุนกัน
และสร้างสีสันให้หนังได้อย่างมาก เขาก็คือ โทบี้ ฮัส (Toby Huss) ดาราตัวประกอบตลอดกาลที่คุ้นหน้าแต่ไม่คุ้นชื่อ เพราะผ่านงานแสดงมาแล้วกว่า 150 เรื่อง ฮัสมาในบท แอนโธนี แลมบ์ มือปืนอีกคนที่มาตามล่าค่าหัวมูเร็ตโต้ นับตั้งแต่นาทีแรกที่แลมบ์ปรากฏตัวนั้น หนังเพิ่มดีกรีความดุเดือดขึ้นมาอย่างสัมผัสได้ชัด
เพราะแลมบ์คือมือปืนที่ทั้งโหดเลือดเย็นและโรคจิต ยิงคนได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา หัวเราะไปยิงไปอย่างคนอารมณ์ดี การมาถึงของแลมบ์ทำให้อารมณ์หนังลุ้นระทึกขึ้นมาก รู้สึกได้เลยว่าชีวิตของตัวละครที่เหลือในเรื่องนี้ล้วนอยู่ในภาวะอันตราย
ซึ่งคาร์นาฮานมอบหมายตำแหน่งนี้ให้กับนักแสดงหน้าใหม่ อเล็กซิส เลาเดอร์ (Alexis Louder) สาวผิวสีที่มีประสบการณ์ในทีวีซีรีส์มาเยอะมาก เธอรับบทเป็น วาเลรี ยัง ตำรวจหญิงผู้ตงฉินประจำ สน. และโปรดปรานการสาดกระสุนเป็นพิเศษ ก็ถือว่าคาร์นาฮานมอบงานหนักให้เธอพอควรกับบทนี้ เพราะเธอได้โชว์ทั้งสาดกระสุน และต่อสู้ด้วยมือเปล่า
แต่ดูแล้วบทที่คาร์นาฮานเขียนก็เป็นบทที่ส่งเธออย่างมาก เป็นบทที่ฉลาด ไหวพริบดีเอาตัวรอดได้เก่ง และทันคน จุดที่ชอบที่สุดในบทของคาร์นาฮาน คือการทิ้งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้รายทาง ที่ดูเหมือนไม่สลักสำคัญอะไร แต่ก็ถูกหยิบมาใช้ได้ในช่วงไคลแมกซ์