Something in the Rain (2018) สื่อในสายฝน หนึ่งในนักแสดงเกาหลีในดวงใจที่ผู้เขียนชอบและประทับใจในบทบาทการแสดงเสมอมา ตั้งแต่ได้ชมผลงานของเธอเรื่องแรกจากงานเมโลดราม่าสุดโรแมนติก งานที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูหนังชาวไทยในยุคบุกเบิกหนังเกาหลีในบ้านเรา งานรักโรแมนติกซึ้งๆ ภาพสวยๆ เพลงเพราะๆ บทที่เนี้ยบแน่น การแสดงระดับเอากันให้ตายไปข้างของนักแสดงทุกคน งานในตำนานอย่าง The Classic (คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ในปี 2003) ที่ส่งนักแสดงหญิงนัยน์ตาโศกคนหนึ่งโด่งดังทะลุฟ้าเอเชีย และค้างอยู่บนนั้นในฐานะเจ้าแม่เมโลดราม่ามาจนปัจจุบัน ดูหนัง
ใช่แล้วผู้เขียนกำลังกล่าวถึงซนเยจิน และไม่น่าเชื่อว่าหลังจากนั้นเมื่อหนังเกาหลีบูมอย่างสุดขีดในบ้านเรา หน้าที่หนึ่งของคนดูหนังยุคนั้นโดยเฉพาะหนุ่มๆคือการตีตั๋วเข้าไปดูซนเยจินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซนเยจินคือหนึ่งในนักแสดงเกาหลีที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่ง ดูหนังออนไลน์
และเมื่อได้เขียนถึhttp://movieonline4k.comง One Spring Night แล้วไม่เขียนถึงเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นบาปมหันต์ เพราะเป็นงานที่สร้างจากผู้กำกับคนเดียวกัน โทนเรื่องและแก่นคล้ายกันเล่นประเด็นหมิ่นเหม่คล้ายกันแต่ไม่หมิ่นเท่า และมองเห็นความโรแมนติกจัดจ้านที่เบื้องหน้า แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งประเด็นทางสังคมเบื้องหลัง แม้ว่าเรื่องนี้จะมีไม่มาก ไม่แรง และยังไม่ลึกเท่าก็ตาม Something In The Rain ดูหนังฟรี
ยุนจินอา (ซนเยจิน) หญิงสาววัยสามสิบตอนกลางผู้กำลังมีปัญหากับแฟน จนถึงขั้นเลิกรากันแบบจบไม่สวยเพราะสันดานห่วยแตกของฝ่ายชาย พร้อมกันนั้นการเข้ามาของชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าใสนามซอจุนฮี (จองแฮอิน) ที่เรื่องไม่ได้หลบเร้นอะไรว่าเขามาเพื่อเยียวยาหัวใจที่แตกร้าวของจินอา เว็บดูหนัง
แต่เรื่องมันซับซ้อนตรงที่ว่าจุนฮีคือน้องชายของเพื่อนสนิท อีกทั้งจุนฮีก็ยังเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายตัวเอง และสองพี่น้องคู่นั้นก็สนิทและผูกพันกับครอบครัวจินอาเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่…ถ้าจุนฮีมีอะไรในสายตาตัวจินอาเองก็ก็ไม่ได้ต่างกัน เพียงแต่ความสัมพันธ์อันซับซ้อนที่ว่านำพาอาการขัดขืนเสียงเพรียกของหัวใจ ทว่าที่น่าเศร้าคือเสียงของหัวใจมักจะดังกว่าเหตุผลเสมอ เมื่อคนสองคนใจตรงกันทุกอย่างก็พังทลาย
ในขณะเดียวกันตัวจินอาเองต้องเผชิญกับการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานของผู้ชายระดับผู้บริหาร และเธอจำต้องสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองไปพร้อมๆกับประคับประคองความรักของเธอและจุนฮีให้ผ่านความคร่ำครึและคับแคบของแม่จินอา เว็บดูหนังฟรี
กระทั่งในที่สุดปัจจัยหลายๆอย่างก็บีบให้คนสองคนต้องเลิกรากันไปมีทางของตน แต่ความรักที่ลึกซึ้งไม่อาจเลือนหายไปกับเวลา เมื่อใจของคนสองคนยังมีกันและกันเสียงของหัวใจก็จะกระซิบบอกให้กลับมาเจอกันได้ในที่สุด ผ่านการเล่าเรื่องที่แสนโรแมนติกมีประเด็นทางสังคมที่คมคาย บนฉากหน้าความโรแมนติกแบบจัดเต็มมีพื้นที่ให้ประเด็นทางสังคมและครอบครัวแทรกมาอย่างลงตัว แม้บางเรื่องจะดูหาทางลงง่ายไปบ้างทั้งที่ปูมาอย่างเข้มก็ตาม
อย่างที่เคยกล่าวไว้หลายครั้งว่าด้วยวัยและสถานะของผู้เขียนจะไม่ค่อยอินกับความโมแมนติกหวานซึ้งจัดๆแล้ว ทำให้การดูงานชิ้นนี้ของผู้กำกับแอนพันซอกรู้สึกว่ามันลงตัวน้อยกว่างานหลังจากนี้คือ One Spring Night ในด้านความลงตัวและความกลมกล่อม
ด้วยความที่เรื่องนี้เน้นความโรแมนติกด้านความรักของคู่พระนางจัดเต็ม ซึ่งมันก็ได้ผลดีเพราะในแต่ละตอนจะมีความโรแมนติกให้สัมผัสในทุกๆตอนทำให้ออกรสหวาน ในขณะที่ส่วนผสมที่จะทำให้กลมกล่อมคือเรื่องที่ซ้อนข้างหลังนั้นไม่หลากหลาย
ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่าซีรี่ส์เรื่องนี้จริงๆ แล้วฉายมาตั้งแต่ปี 2018 แต่เราพึ่งจะมาดูไม่นานมานี้เอง (Out สุดๆ) โดยเนื้อนี้เป็นเรื่องราวของยุนจินอา รับบทโดย ซนเยจิน-นางเอกหน้าสวยที่พึ่งรับบทเป็นภรรยาของผู้กอง อะไรจะมีบุญขนาดนี้ กับ ซอจุนฮี รับบทโดย จองแฮอิน
พระเอกสุดหล่อ โดยทั้ง 2 คนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็มีเรื่องราวที่ทำให้พระเอกไปเรียนและทำงานที่ต่างประเทศ จนวันหนึ่งทั้ง 2 ได้กลับมาเจอกันเพราะทำงานอยู่ในอาคารเดียวกัน ซึ่งการที่ได้เจอกันโดยบังเอิญ การช่วยเหลือกันก็ทำให้ความรักของทั้ง 2 เกิดขึ้นแต่ปัญหาก็คือนางเอกอายุ 35 ปี ที่สำคัญคือพระเอกยังเป็นเพื่อนสนิทของน้องชาย ดังนั้นเรื่องราวจะเป็นยังไงก็แนะนำว่าให้ทุกคนไปหาดูกันได้เลยค่ะ
ซึ่งผู้เขียนเห็นเพียงสามประเด็น คือเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานและสิทธิสตรี การตีแสกหน้าสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ไร้ความเคารพเพศตรงข้าม และประเด็นของการปะทะกันระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ ความคร่ำครึกับความคิดนอกกรอบ
ซึ่งถ้าเทียบกับงานที่มาทีหลังอย่าง One Spring Night แล้วเรื่องนี้ความหลากหลายและมิติเชิงลึกยังไม่ลงตัวเท่า แถมเรื่องของการต่อสู้เรื่องการคุกความทางเพศเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของจินอาที่ปูมาอย่างแรงก็หาทางลงแบบง่ายไป
ทำให้มองเห็นความไม่สมบูรณ์ของบทในส่วนของเป้าหมายหลังเป้าหมาย แต่ถ้านับว่านี่คืองานที่มาก่อนก็เข้าใจได้ แต่ทั้งนี้เรื่องนี้กลับมีดีกว่าตรงเส้นความโรแมนติกที่อยู่ในระดับเยี่ยม พัฒนาการของบทและเหตุการณ์พลิกผันรายทางที่ดูใกล้ตัว เป็นเรื่องปัจเจกที่เกิดขึ้นได้จริง แม้ความหวานจะล้ำหน้ารสอื่นแต่ก็ไม่ถึงกับเลี่ยนหรือเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด
ด้วยเรื่องของความรักต่างวัยที่สามารถเกิดขึ้นได้บนโลก เพราะความรักมันไม่ได้มีข้อจำกัดใดๆ ความรักเป็นเรื่องเหนือตรรกะและเหตุผล ไม่เชื่อคุณลองนึกดูว่าท่านรักใครสักคนเพราะเหตุผลอะไรจริงๆดู เพราะความรักเป็นเรื่องของสามัญสำนึกและหัวใจล้วนๆ
เพียงแต่ความรักต่างวัยในเรื่องนี้มันมีความซับซ้อนเชิงความสัมพันธ์อยู่ เลยทำให้มันยุ่งและยากที่จะชี้ชัดว่าใครผิดหรือถูกในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนั้น ยุนจินอาและซอจุนฮีแม้ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆแต่ก็เกือบๆเพราะความสัมพันธ์นั้น ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันและได้เห็นอะไรหลายอย่างของกันและกันจึงไม่ยากที่จะกลายเป็นความรักที่ฝังลึกและเร้นอยู่ในนั้นเสมอมา
ซึ่งเอาตรงๆเรื่องก็พยายามบอกแล้วว่าลึกๆแล้วจินอาเองก็มีใจเช่นกันกับซีนที่เธอรอจุนฮีจับมือในรถ ด้วยความที่คนทั้งคู่ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆความรักครั้งนี้จึงไม่ได้ผิดแปลกในมิติใดถ้าจะผิดคือผิดที่ใจคนรอบข้างมากกว่า แต่กระนั้นก็คงไม่สามารถไปห้ามความคิดและทัศนคติของคนอื่นได้
ที่จินอาและจุนฮีทำได้คือจับมือกัน เชื่อมั่น ต่อสู้ เป็นกำลังใจให้กัน และเดินก้าวผ่านสายธารอันเชี่ยวกรากไปให้ได้อย่างมั่นคงเท่านั้น แต่แม้คนรอบข้างจะทำอย่างไรหรือคิดอย่างไรทุกการกระทำของพวกเขาก็มิใช่เรื่องผิดเช่นกัน
ด้วยความสัมพันธ์ที่คล้ายดั่งครอบครัวที่เอื้ออารีย์ พี่สาวจุนฮีไม่ผิดที่คิดว่าเป็นเรื่องไม่ควรเพราะจินอาไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทแต่เหมือนกับเป็นพี่สาวอีกคนของจุนฮี แต่อาการแข็งขืนในตอนแรกก็สลายลงเพราะความมั่นคงในรักของเพื่อนกับน้องชายพ่อจินอา
ไม่ผิดที่แม้ในใจจะตะขิดตะขวงใจแต่ความเป็นผู้ใหญ่ต้องใจกว้างพอที่จะรับฟังเหตุผลของหัวใจลูกได้ เพราะอย่างที่บอกว่าความรักมันไม่มีคำอธิบายใดๆ ความรักเป็นเหมือนกระแสน้ำป่าที่ไหลหลากยากที่อะไรจะขัดขวางได้ และพ่อเองก็รักลูกในมุมที่เห็นความสุขของลูกมากกว่าความสุขของตัวเอง
ส่วนที่น่ารังเกียจที่สุดคือแม่จินอาที่แสดงออกถึงทัศนคติที่คร่ำครึเหยียดชาติตระกูล แต่แม่เองก็ไม่ผิดที่คิดแบบนั้นด้วยบริบททางสังคมที่เรื่องของชนชั้น ชาติตระกูล และระบบอาวุโสยังเข้มข้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นแม่ที่คิดถึงลูกในมุมที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่หน้าตาทางสังคมมากกว่าความสุขของลูก แต่ทั้งนี้มันก็ไม่ผิดอะไรเพราะมันคือการกระทำที่มีพื้นฐานมาจากความรักและความหวังดี
เพียงแต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปความสุขของลูกอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่พ่อแม่ต้องคิดถึงเป็นสิ่งแรกก่อนคิดในมุมของตนเอง ความคิดความอ่านของลูกต้องได้รับความเคารพเพราะลูกๆมิใช่หุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมา แต่ลูกๆคือมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจเจ็บได้ร้องให้เป็นเช่นเดียวกัน
ซึ่งประเด็นเรื่องครอบครัวและทัศนคตินั้นสำหรับเรื่องนี้ยอดเยี่ยมและได้ใจถึงอารมณ์ผู้ชม ชี้ให้เห็นถึงด้านมืดอย่างแม่จินอาที่หัวชนฝา และด้านสว่างพร้อมเปิดใจโอนอ่อนและรับฟังอย่างพ่อจินอาและพี่สาวจุนฮี ซึ่งว่ากันตามตรงมันกระชากใจได้เลย
อีกประเด็นที่ใส่เข้ามาที่นับว่าลงตัวคือเรื่องของการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และความโสมมในกมลสันดานผู้ชายที่จัดมาชนิดที่ว่าขนาดผู้เขียนเองเป็นผู้ชายยังรู้สึกรังเกียจ ด้วยอารมณ์เสียดสีทัศนคติของแม่จินอาที่ชมชอบผู้ชายที่การศึกษาดีชาติตระกูลดี แต่แท้จริงแล้วเรื่องราวเหล่านั้นหาได้สำคัญเท่าความดีงามในหัวใจ ผ่านตัวละครแฟนเก่าที่แย่ในทุกมิติจนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าคนแบบนี้มีอะไรดีให้จินอารัก
ร่วมด้วยตัวละครผู้บริหารในบริษัทในที่ทำงานของจินอาที่หาเศษหาเลยกับพนักงานหญิงแบบไร้ยางอายทั้งที่ตนก็มีครอบครัว รวมถึงการตีแสกหน้าบริบททางสังคมเกาหลีที่ให้ความสำคัญกับผู้ชาย ถึงขนาดที่แม้จะผิดเต็มประตูก็ยังพยายามบิดเบือนให้ร้ายผู้หญิงได้อย่างน่าทุเรศ
ซึ่งถ้าในความเป็นจริงในสังคมเป็นแบบนี้พนักงานหญิงต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้แล้วไม่กล้าพูด ถูกปิดปากด้วยการข่มขู่ ความระแวดระวังในการรักษาสถานะภาพการทำงาน และแม้กระทั้งชื่อเสียงที่อาจย่อยยับได้เพราะสังคมมองผู้หญิงเป็นฝ่ายให้ท่า
และถ้าเป็นเช่นนี้มันคือความสกปรกโสมมอย่างที่สุดในระบบ สังคม และทัศนคติของผู้ชาย แต่น่าเสียดายที่บทปูเรื่องความกล้าที่จะชน ความกล้าที่จะสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองของจินอาและเพื่อนพนักงานหญิงคนอื่นๆที่ถูกปูมาอย่างเข้มข้น
มีมิติและน่าติดตามกลับถูกทำลายด้วยการหาทางลงง่ายๆด้วยคำพูดไม่กี่คำ มันเลยทำลายน้ำหนักในสิ่งที่ปูมาทั้งหมดเพราะผู้ชมอยากเห็นผลของการกระทำแย่ๆของคนแย่ๆมากกว่า และมันกลายเป็นการดึงภาพรวมของเรื่องให้ดร็อปลงและไปไม่ถึงจุดที่เรียกว่าสมบูรณ์
สำหรับซนเยจินนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะบทแบบนี้เธอหลับตาเล่นก็คงได้ เหมือนเดินเข้าฉากมาแล้วทำตัวสบายๆก็ได้ผล พลังดารายังคงเปี่ยมล้นยิ่งได้บทที่เป็นแกนหลักของเรื่อง มิติเชิงลึกของตัวละครเยอะทั้งเรื่องความรักและปัญหากับครอบครัวและที่ทำงาน
ซนเยจินยังให้การแสดงระดับเจ้าแม่ที่สมบทบาทและออร่าทะลุจอเช่นเคย แต่ที่ผู้เขียนคิดว่าไม่น่าเชื่อคือจองแฮอินที่เคยดูเขาเล่นมาสองเรื่องคือ Prison Playbook กับ One Spring Night ที่เห็นว่าเขาแสดงออกทางแววตาเก่ง แม้เรื่องนี้มิติทางตัวละครอาจไม่เท่าซนเยจินแต่เขากลับเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่โดนซนเยจินข่มมิดจนหายไป
อาจมีบ้างที่ต้านพลังแม่ไม่ได้แต่ก็ไม่ถึงกับด้อยกว่าจนเหมือนส่วนประกอบฉาก แต่กลับดูเข้ากันดีกับตัวแม่อย่างซนเยจินในเรื่องของเคมีที่ลงตัว เห็นชัดว่าเป็นน้องชายที่เฝ้ามองพี่สาวคนนี้อยู่เสมอและเป็นรักแรกในแบบน้องรักเพื่อนพี่ที่โตมาด้วยกัน
เพียงแต่กับตัวของจุนฮีกลับไม่ได้ถูกสภาพแวดล้อมและการเติบโตที่ต้องเจอกับผู้หญิงมากหน้าที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงความมั่นคงในใจไปได้ แล้วในสายตานั้นไม่ว่าจะมองในฐานะไหนก็คือความมั่นคงกับผู้หญิงคนนี้ และเขาทำให้คนดูเชื่อในความรักของจุนฮีกับจินอา
ในชนิดที่ผู้ชมที่ชอบความโรแมนติกมีจิกหัวแม่เท้า ยิ่งเรื่องนี้ฉากเข้าพระเข้านางมาเป็นสายฝนในวสันต์ มีหนักมีเบามีซาเม็ดบ้างแต่หน้าฝนก็คือหน้าฝนที่ฝนตกแทบตลอดเวลาจนคนโสดอาจมีเคือง
เรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยการปล่อยของจากนักแสดงสมทบ ชนิดที่ว่ารักเป็นรักเกลียดเป็นเกลียดแบบเข้าถึงแก่นของตัวละคร โดยเฉพาะกิลแฮยอนในบทแม่ที่แม้จะเป็นตัวละครมิติเดียวคือสุดจัดไปทางความคับแคบคร่ำครึ แถมยังมีความย้อนแย้งในตัวเมื่อยึดมั่นในขนบทางสังคมหัวเก่า
แต่ตัวแม่กลับเป็นภรรยาที่มีอิทธิพลเหนือสามีที่เป็นการแหวกความคร่ำครึนั้น จึงเป็นความฉลาดในการเขียนบทที่ชี้นิ่วสั่งผู้ชมเลยว่านี่คือบทที่น่ารังเกียจในมิติเดียวนั้น ซึ่งนักแสดงที่คุ้นหน้ากันดีอย่างกิลแฮยอนก็รับผิดชอบมิติเดียวนั้นได้อย่างเด็ดขาด
และยังต้องเอ่ยถึงโอมันซอกในบทพ่อที่แม้จะเข้าใจแต่ต่านทานพลังแรงสูงของแม่ไม่ได้ หรือความสับสนที่พัฒนามาเป็นความเข้าใจและสนับสนุนของบทพี่สาวอย่างจางโซยอน นับว่าบทสมทบที่ยอดเยี่ยมสามารถส่งเสริมให้เรื่องดราม่าที่หนักพอดูมีน้ำหนัก และทำปฏิกิริยากับหัวใจผู้ชมได้อย่างชะงัด
และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่น่าจดจำคงต้องยกความดีความชอบให้เพลงประกอบ ที่เรื่องนี้มาแปลกที่ใช้เพลงสากลภาษาอังกฤษเพราะๆมาเป็นตัวเสริมส่งอารมณ์ กับงานด้านภาพสวยๆประหนึ่งอยู่ในความฝันที่ไม่อยากตื่น เรียบนิ่งในบางครั้งให้ภาพเป็นตัวบรรยาย
บางคราวก็ให้ภาพที่สวยงามถูกเพลงที่เพราะพริ้งสื่อความหมาย ทำให้บรรยากาศมีความโรแมนติกหนักเข้าไปอีกและมันมอบผลในระดับน่าประทับใจ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบหรืออาจจะไม่ถึงวางไว้บนหิ้ง แต่ถ้าว่ากับที่ความเป็นงานแนวโรแมนติกนำหน้า นี่คืองานที่ชัดเจนในแนวทางและเปี่ยมคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง
ยุนจินอา (ซนเยจิน) สาวโสดอายุ 35 ปี ทำงานในตำแหน่งรองผู้ช่วยผู้จัดการในบริษัทที่ขายแฟรนไชส์กาแฟต้องคอยไปตามดูแลและควบคุมคุณภาพของสาขาแฟรนไชสฺ์แต่ละที่เนื้องานมีความกดดันค่อนข้างสูงจากคนในบริษัทที่มีคนทำงานน้อยแต่งานเยอะและเครียส
แถมยังโดนกดขี่จากพวกหัวหน้างานที่เป็นผู้ชายอีกยังไม่พอโดนแฟนนอกใจไปคบผู้หญิงที่เด็กกับเธอ ส่วนซอจุนฮี (จองแฮอิน) นักออกแบบในบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ซึ่งไปทำงานต่างประเทศ และเพิ่งกลับมาอยู่ที่เกาหลี เป็นน้องชายของเพื่อนที่สนิทกันมากรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ (เคยแสดงเรื่อง Wise Prison Life) ความใกล้ชิดหรือรักแรกหรืออะไรก็ตาม ความรักของทั้งคู่จะเป็นไปได้ไหม
ประเด็นหลักของซีรีส์เรื่องนี้คือความรักต่างวัยของคู่พระนาง เมื่อ ยุนจินอา อายุมากกว่า ซอจุนฮี ถึง 11 ปี ช่องว่างระหว่างวัยขนาดนี้ ถึงจะเป็นฝ่ายผู้ชายที่แก่กว่าก็ถือว่าเยอะอยู่ดี แต่นี่ฝ่ายที่แก่กว่ากลับเป็นฝ่ายหญิงเสียอีก ความรักครั้งนี้จึงยิ่งดูเป็นไปได้ยากขึ้นไปอีก (แต่เป็นอะไรที่เราฟินมากกก)
แน่นอนว่าเมื่อรักกันใหม่ ๆ อะไร ๆ ก็ดูเป็นไปได้ทั้งนั้น ยอมทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่างเพื่อความรักครั้งนี้ แต่คนเราเมื่อต้องทำอะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเองนานวันเข้านิสัยที่แท้จริงของตัวเองก็กลับมาสักวัน และตอนนั้นเองจะเป็นตอนที่เราตระหนักได้ว่าความรักครั้งนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย
เช่นเดียวกับตัวละคร ยุนจินอา และซอจุนฮี ที่เปิดเรื่องมาดูจะมีความรักที่ดีและหอมหวานเสียเหลือเกิน แต่ในความเป็นจริงแม้แต่คู่รักที่อายุไล่เลี่ยกันยังมีปัญหาเกิดขึ้นเลย แต่นี่อายุห่างกัน 11 ปี ต่อให้รักกันยังไงแต่ในที่สุดวันที่มีปัญหาเกิดขึ้นก็มาถึง
นอกจากอุปสรรคเรื่องทัศนคติที่ไม่ตรงกันแล้วซึ่งเป็นปัจจัยภายในแล้ว อุปสรรคจากปัจจัยภายนอกก็เป็นอีกหนึ่งด่านที่คนทั้งคู่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนออกมาได้ตรงจุด ทำให้คนดูอย่างเรารู้เลยว่ามุมมองของสังคมเกาหลีที่มีต่อความรักต่างวัยนั้นไม่ต่างจากสังคมไทยเลย
ทั้งเรื่องครอบครัวซึ่งมีทั้งครอบครัวหัวสมัยใหม่ที่ยอมรับกับความรักในรูปแบบนี้ได้ และครอบครัวหัวโบราณที่ต่อต้านคัดค้าน ยังไม่รวมถึงเสียงนินทาจากคนรอบข้าง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ ยุนจินอา และ ซอจุนฮี ต้องฝ่าฟันต้องข้ามผ่านไปให้ได้
ยุนจินอา (ซนเยจิน) สาวโสดอายุ 35 ปี ทำงานในตำแหน่งรองผู้ช่วยผู้จัดการในบริษัทที่ขายแฟรนไชส์กาแฟต้องคอยไปตามดูแลและควบคุมคุณภาพของสาขาแฟรนไชสฺ์แต่ละที่เนื้องานมีความกดดันค่อนข้างสูงจากคนในบริษัทที่มีคนทำงานน้อยแต่งานเยอะและเครียส
แถมยังโดนกดขี่จากพวกหัวหน้างานที่เป็นผู้ชายอีกยังไม่พอโดนแฟนนอกใจไปคบผู้หญิงที่เด็กกับเธอ ส่วนซอจุนฮี (จองแฮอิน) นักออกแบบในบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ซึ่งไปทำงานต่างประเทศ และเพิ่งกลับมาอยู่ที่เกาหลี เป็นน้องชายของเพื่อนที่สนิทกันมากรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ