Romance is a bonus book (2019) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานจากผู้กำกับ และผู้เขียนเรื่อง Five Enough โดยผู้กำกับ อีจองฮโย ( Lee Jung-Hyo) และเขียนบทโดย จองฮยอนจอง (Jung Hyun-Jung) โดยมีพระเอกของเรื่องเป็นหนึ่งในแก๊งจตุรเทพเกาหลี ฉายาเป็ดน้อย อย่าง อีจงซอก (Lee Jong-Suk) ที่ทิ้งท้ายผลงานก่อนเข้ากรมทหาร ดูหนัง
เป็นผลงานชิ้นแรกของนางเอก อีนายอง (Lee Na-Young) ที่หวนคืนวงการหลังจากเข้าพิธีวิวาห์กับวอนบิน ซึ่งเป็นการกลับมาทำงานแสดงที่ห่างหายไปในรอบ 9 ปีเต็ม ซึ่งเหมาะสมกับบทบาทในเนื้อเรื่องอย่าง Romance is a Bonus Book เรื่องราวเริ่มขึ้นจาก คังดันอี (รับบทโดย อีนายอง) ผู้เป็นอดีต Copywriter ที่ครั้งหนึ่งชีวิตการทำงานเธอเคยรุ่งเรืองประสบความสำเร็จจากการเป็นนักเขียนคำโฆษณา แต่โชคชะตาไม่เข้าข้างเธอเสมอไป ทำให้ชีวิตนั้นพลิกผันกลายเป็นคนตกงาน และเพื่อที่จะได้เข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ดูหนังออนไลน์
เธอจึงต้องปกปิดประวัติการทำงานของตัวไว้เป็นความลับ ซึ่งสำนักพิมพ์ ที่มีหัวหน้าบรรณาธิการ และเป็นนักเขียนมือทองที่อายุน้อยแห่งวงการนักเขียน เจ้าของหนังสือที่ใครๆก็รู้จักอย่าง ชาอึนโฮ (รับบทโดย อีจงซอก) ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันมายาวนานมากกว่า 10 ปี แน่นอนเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งคู่ จะไม่รู้จักกัน เรื่องราวจึงเริ่มมีรสชาติของความสนุก อบอุ่น และทำให้ต้องอมยิ้มตามไปจนจบ เสน่ห์ของซีรีส์ Romance is a Bonus Book ที่ผู้เขียนประทับใจคือ เนื้อเรื่องบอกเล่าเรื่องราวขั้นตอนของการทำหนังสือ ดูหนังฟรี
ตั้งแต่การคัดเลือกผลงานจากนักเขียน การคัดสรรออกแบบหน้าปกหนังสือเพื่อให้เป็นที่ประทับใจต่อผู้อ่านในการเลือกซื้อหนังสือ การทำการตลาดในรูปแบบต่างๆในการวางขายเพื่อเพิ่มคุณค่าของหนังสือ ตลอดจนขั้นตอนสุดท้ายของการเป็นหนังสือ นั่นคือ การทำลายหนังสือ ซึ่งถ้าได้ดูแล้วอาจจะรู้สึกใจสลายสำหรับผู้รักหนังสือหลายท่านเหมือนคนทำหนังสือในซีรีส์เรื่องนี้ และทำให้ผู้เขียนเปลี่ยนมุมมองความคิดไปเลยว่า ถึงแม้เราจะเดินเลือกซื้อหนังสือในร้านหนังสือ เว็บดูหนัง
แล้วพบว่าหนังสือที่เราต้องการอ่านนั้น มีรอยยับ มุมพับ เราก็ควรซื้อหนังสือเล่มนั้น เพราะถึงแม้ว่าหนังสือจะยับ แต่ข้อความภายในหนังสือก็ยังคงคุณค่าอยู่เช่นเดิม และเพื่อให้หนังสือนั้นไม่ถูกตีกลับไปทำลายโดยที่ไม่มีใครอ่าน นอกจากนี้ ซีรีส์ Romance is a Bonus Book ยังทำให้เราเห็นมุมของการเป็นนักเขียนก่อนที่ผลงานจะถูกตีพิมพ์ การตีพิมพ์งานเขียนในรูปของบทกวี ที่เมื่อเวลาผ่านไป บทกวีจะค่อยๆเลือนลางหายไป นักกวีกลายเป็นกวีไร้ชื่อ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก ๆ รวมไปถึงคุณค่าในตัวละครทุกตัวที่ถูกถ่ายทอดผ่านนักแสดงในเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและความพิเศษของเรื่องนี้ที่ผู้เขียนชอบ และรู้สึกว่าจรรโลงใจเป็นอย่างมากคือ ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่มีตัวโกง ไม่มีตัวร้าย ไม่มีการลงไม้ลงมือ ทำให้เป็นซีรีส์ที่ดูได้แบบอบอุ่น ละมุนใจ ตัวละครมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไปในนิสัยใจคอ ที่ดูอีกกี่ครั้ง ชมอีกกี่ที ก็อมยิ้มดูได้จนจบ เว็บดูหนังฟรี
ถ้าลองเปิดใจแล้วดูเรื่องนี้บอกเลยค่ะว่าสนุกมาก พอดูได้ตอนสองตอนก็ติดเลยค่ะ ช่วงแรก ๆ จะสงสารนางเอกมากคนอะไรชีวิตรันทดสุด ๆ แต่พอผ่านช่วงนั้นไปก็จะฟินมากค่ะพระเอกนางเอกคือเคมีเข้ากันมากอินสุด ๆ เลยค่ะและเนื้อเรื่องมีทั้งฉากเศร้าฉากหัวเราะคือเราหัวเราะแบบน้ำตาไหลค่ะ และที่เราตัดสินใจดูเรื่องนี้ก็คือพระเอกนั่นเองค่ะ ที่รับบทโดยอีจงซอก เล่นได้น่ารักมากเราคือยิ้มตามในความน่ารักของพระเอกเลยค่ะ และนางเอกที่รับบทโดย อีนายอง ก็เคมีเข้ากับพระเอกสุด ๆ เลยค่ะ และยังมีพระรองที่น่ารักมากไม่เเพ้พระเอกเลยทีเดียว
ดูเรื่องนี้เราไม่ได้รับแค่ความฟินนะคะ ในเรื่องยังบอกเล่าถึงการทำงานในสำนักพิมพ์ซึ่งเราดูเเล้วทำให้เราเห็นคุณค่าของหนังสือเลยค่ะกว่าหนังสือแต่ละเล่มจะตีพิมพ์นั้นใช้เวลานานแค่ไหน ต้องตรวจสอบต้องวางแผนการตลาดรูปแบบหนังสือหรือแม้แต่การที่หนังสือไม่ได้ขายมีตำหนิถูกตีกลับก็ต้องนำหนังสือไปทำลาย ซึ่งเราบอกเลยว่าเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะถือเป็นเกล็ดความรู้แถมมากับการดูซีรี่ย์เลยค่ะถ้าคนอ่านเรื่องย่อ คุณจะพบว่าพล็อตมันดูไม่มีอะไรเลย! ใช่ มันดูไม่มีอะไรเลยจริงๆ555555555 แต่การเล่าเรื่องนั้นกลับทำให้ดูเพลิน และสนุกจนหยุดดูไม่ได้เลยทีเดียว เรื่องนี้จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นส่วนใหญ่ ซีรี่ส์จะพาคุณเข้าไปทำความรู้จักตัวละครแต่ละตัว รู้ถึงพื้นหลังและ Pain Point ของแต่ละคน และแสดงให้เห็นว่าตัวละครแต่ละตัวมีพัฒนาการอย่างไรบาง ปัจจัยทั้งหมดนี้ถูกเสริมด้วยการเล่าเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม จนทำให้เราอยากดูต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้จบเลย ส่วนตัวผมประทับใจเรื่องนี้มาก ความอบอุ่มและอิ่มอบอิ่มใจที่ได้รับจากเรื่องนี้ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้ดีจริงๆ
ตัวละครแต่ละตัวมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมาก นอกจากนี้การแบ่งบททำให้ตัวละครทุกตัวมีความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นการที่ซีรี่ส์พาเราไปทำความรู้จักตัวละครแต่ละตัวจนทำให้เราผูกพันธ์และเห็นพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆเป็นอะไรที่ดีมาก แถมเคมีของตัวละครยังเข้าคู่กันพอดีอีกด้วย พิมพ์มาถึงขนาดนี้แล้วจะไม่ให้หลงรักเรื่องนี้ได้ยังไง
ซีรี่ส์ที่เนื้อหาไม่ได้ดราม่า, ไม่ได้หักมุม หรือไม่ได้ซับซ้อน การที่จะเล่าเนื้อหาให้สนุกและน่าติดตามเป็นอะไรที่ยากมาก แต่เรื่องนี้กลับทำได้ และทำออกมาให้ติดงอมแงมมากเลยด้วย อยากดูไปเรื่อยๆไม่อยากให้จบ จบก็ต้องดูตอนต่อไป กด Next Episode ไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากี่โมงกี่ยามแล้ว ฮื้อออ ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าแล้ววววว
เนื้อหาของเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการทำหนังสือ แต่คนที่ไม่อ่านหนังสือก็ไม่ต้องกลัว สามารถดูได้ทุกคน หากดูจบคุณคงอยากจะหาหนังสือมาอ่านสักเล่มแบบจริงๆจังๆเลยก็เป็นได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในโลกนี้ถึงมีหนังสือมากมาย ถึงมีสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ความพยายามของทุกคนในการทำหนังสือดีๆสักเล่มนึงออกมาได้สื่อถึงทุกคนที่ดูเรื่องนี้แล้ว
เชื่อว่าแฟนๆ Netflix หลายคนต้องเคยผ่านตากับซีรีส์เกาหลีเรื่อง Romance is a bonus book ที่ขึ้นมาในลิสต์ ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ขอให้ลองกดเข้าไปดูกันสักหน่อย เพราะนอกจากเราจะได้รับอรรถรสจากซีรีส์แล้ว เรายังจะได้สไตล์ดีๆ จากพระเอกของเรื่อง อีจงซอก อีกด้วย
พระเอกจากซีรีส์หลายเรื่องนั้นต่างแต่งตัวดูดี ดูเท่ แต่ซีรีส์เรื่องนี้มากกว่านั้น เพราะการแมตช์ชุดของเขาเกือบจะทุกตอน เรียกว่ามีมิติและมุมมองที่โดดเด่น การเล่นเลเยอร์ การใช้สีที่ไม่ได้ยากมาก แต่ทำให้ลุคนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
วันนี้เราขอพาทุกท่านมาถอดรหัสลุคของบรรณาธิการ ชาอึนโฮ (รับบทโดย อีจงซอก) มาดูกันว่าพระเอกคนนี้มีจุดไหนที่น่าสนใจ เผื่อว่าคุณจะเอาไปลองปรับ หรือคุณสาวๆ อาจจะลองเอาไปแนะนำแฟนของคุณก็ยังได้ (แค่แนะนำว่าให้แมตช์เพื่อไปใส่ต่างประเทศที่อากาศหนาว)
เริ่มต้นด้วยอีพีแรกก็แทบจะหยุดหายใจ ลุคที่ดูเรียบง่ายแต่สีที่ใช้ดูน่าสนใจ ใครจะคิดว่าเสื้อคอเต่าสีขาวธรรมดาๆ ตัวหนึ่งเมื่อนำสูทลายตารางสีน้ำตาลเข้มมาสวมทับแล้วจะทำให้ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นได้ขนาดนี้ และอีกอย่างที่น่าสนใจต่อจากการเล่นสีนั้นคือการสไตลิ่งเสื้อคอเต่าที่ดึงปลายแขนล้ำออกมาจากสูท มันคืออีกหนทางในการสร้างเลเยอร์ให้ลุคมีดีเทลที่น่าสนใจในตัวมันเอง
ลุคนี้คือลุคที่สะดุดตาที่สุดเท่าที่เคยดูมา เรียบง่ายดึงโทนสีน้ำเงินเนวี่ขึ้นมาเพื่อทำให้ลุคดูสุขุม เสื้อโค้ตยาวโอเวอร์ไซส์ไหล่ตรงที่ช่วยสร้างไหล่ให้ดูกว้าง และทำให้บุคลิกภาพดูดีขึ้น ที่น่าสนใจคือการใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวทับกับเสื้อคอเต่าสีน้ำเงินเพื่อเล่นเลยอร์นี่แหละ เพราะตัวเสื้อเชิ้ตสีขาวจะมาช่วยสร้างมิติของสีแล้วยังช่วยเบรกความขรึม และเติมความสนุกเข้าไปในลุคได้อย่างง่ายดาย
จะไม่พูดถึงไม่ได้กับความคิวต์ของลุคโอเวอร์ไซส์นี้กับเสื้อตัวนอกที่เป็นโอเวอร์โค้ตไหล่ตกสีน้ำตาลเดินเส้นสีน้ำเงินสลับ ด้วยความใหญ่และโคร่งจึงทำให้เป็นลุคหลอกตาให้ดูตัวใหญ่ หยอดเสื้อคอเต่าสีเนวี่เพิ่มเพื่อให้ล้อกับตัวของเส้นสีน้ำเงินที่ตัดกันอยู่บนเสื้อโอเวอร์โค้ต เป็นการเล่นสีที่น่าสนใจไม่น้อย ทำให้เราเห็นการเชื่อมโยงของสีในแต่ละไอเท็ม ถึงแม้จะเป็นจุดเล็กๆ อย่างเส้นตัดบนโอเวอร์โค้ตก็น่าสนใจได้
ลุคนี้ดูเผินๆ เหมือนจะไม่ได้มีอะไรมาก แค่เสื้อคอเต่าสีดำกับโอเวอร์โค้ตคัตติ้งเนี้ยบสีเบจสะอาดตา แต่จริงๆ แล้วเขาได้หยอดสูทลายสกอตสีน้ำตาลอมเทา เพื่อทำให้ลุคดูมีความน่าสนใจมากขึ้น อีกทั้งให้ความรู้สึกสุขุมขึ้นเมื่อถอดโอเวอร์โค้ตออก ชุดนี้อยู่ในซีนที่พระเอกจะต้องให้ผ้าพันคอนางเอกในลิฟต์ ด้วยโอเวอร์โค้ตสีขาวจึงทำให้ความอบอุ่นของพระเอกทะยานมากขึ้นไปอีกขั้น
หากถามว่าจะแต่งตามไหม แน่นอนว่าลุคนี้จะเป็นตัวเลือกแรกแน่นอน เพราะเป็นลุคที่ไม่ได้ยากมาก (ยกเว้นการหาเสื้อโอเวอร์โค้ตที่น่ารักแบบนี้) ลุคนี้จะได้ความสตรีทของกางเกงยีนส์เข้ามาช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น แมตช์กับเสื้อคอเต่าที่ดูละมุน เท่านั้นยังไม่พอ ตัวเสื้อโค้ตเองก็ยังมีสีที่เข้ากับตัวกางเกงยีนส์เสริมความน่ารักน่าเอ็นดูเข้าไปอีก และยังตบท้ายด้วยความสบายของรองเท้าผ้าใบทรงคลาสสิกอีกด้วย เชื่อเถอะว่าใครที่เลือกใส่ลุคนี้ ออกมายังไงก็จะได้ความอบอุ่นและอ่อนโยนอย่างแน่นอน
หลังจากเรื่องนี้ออนแอร์ไปแล้ว 5 ตอน แต่รู้สึกเหมือนจะเงียบๆ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันเท่าไหร่
และก็เพราะมันเงี๊ยบบบ เงียบ (ไม่รู้ว่าเราไปอยู่ไหนมา) เราก็เลยเพิ่งได้ดูตอนแรกจบ เมื่อกี๊นี่เองค่ะ
วันนี้เลยขอถือโอกาส มาเชิญชวนทุกท่านที่มาช้าแต่มานะแบบเรา ไปตามดูซีรี่ส์ใหม่นุ้งเป็ดกันนะคะ
‘Romance is a bonus book’ เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ จากช่อง TVN
เริ่มออนแอร์เมื่อวันที่ 26/1/62 ที่ผ่านมา (ติดตามได้ผ่านทาง Netflix)
พระเอกเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมาก เป็น บก.อยู่ สนพ.แห่งหนึ่ง (หล่อ รวย โปรไฟล์ดี)
รู้จักกับนางเอก ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทอยู่แล้ว สำหรับนางเอกนั้น เป็นแม่หม้ายลูกติด เพิ่งหย่ากับสามี
หลังแต่งงานมาแล้ว 7 ปี จึงต้องเริ่มต้นหางานใหม่ สุดท้ายมาลงเอยที่ สนพ.ที่พระเอกทำงานอยู่
หลังจากนี้คงเป็นเรื่องราวของความรัก และการทำงานในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ ให้ต้องติดตามกันต่อไป ชริ้งงงง!!!