What's happening?

Synopsis

The Sea Beast อสูรทะเล (2022)

เป็นเรื่องราวในยุคที่อสูรน่าสะพรึงกลัวเพ่นพ่านอยู่ทั่วท้องทะเล หนังฟรี เหล่านักล่าสัตว์ประหลาดต่างได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ และสุดยอดฮีโร่ผู้เป็นขวัญใจของใครๆ ก็คือ เจค็อบ ฮอลแลนด์ แต่เมื่อเด็กน้อย เมซี่ แบรมเบิล แอบขึ้นเรือในตำนาน เขาจึงต้องเจอกับพันธมิตรที่ไม่คาดคิด ทั้งคู่จะออกเดินทางครั้งสำคัญสู่น่านน้ำที่ไม่มีใครเคยไปและร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ดูหนัง

The Sea Beast อสูรทะเล (2022)

Jacob Holland (พากย์เสียงโดย Karl Urban) หนุ่มนักล่าอสูรทะเล ที่อยู่บนเรือของนักล่าที่เก่งที่สุด และเขาเป็นลูกเลี้ยงของกัปตัน ดูหนังNetflix แถมยังถูกวางตัวให้เป็นกัปตันคนต่อไปอีกด้วย หนังใหม่  เขาได้ออกผจญภัยออกล่าอสูรสีแดง เนื่องจากกัปตัน Crow (พากย์เสียงโดย Jared Harris) เคยเผชิญหน้ากับอสูรแดงและเสียตาไป 1 ข้าง ทว่าการล่าของพวกเขาไม่สำเร็จ

ทำให้รัฐบาลตัดสินใจจะไม่ขอความช่วยเหลือจากนักล่า ดูหนัง และจะสร้างเรือรบเพื่อล่าอสูรเอง แต่สุดท้ายก็เจรจาเพื่อแข่งขันกัน โดยพวกนักล่าแข่งกับเรือรบของรัฐ ใครล่าได้คนนั้นชนะ ทว่าเรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะเด็กสาวที่อยากเป็นนักล่านามว่า Maisie (พากย์เสียง Zaris-Angel Hator) ได้แอบขึ้นเรือมาด้วย ทำให้เธอต้องติดสอยห้อยตามไปด้วย และ Jacob ต้องรับหน้าที่คอยดูแลเธออย่างไม่มีทางเลือก  ดูหนังออนไลน์ สุดท้ายแล้วบทสรุปของการผจญภัยครั้งนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะเจอกับเรื่องราวน่าทึ่ง และอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง

เด็กชายคนหนึ่งได้เกาะท่อนไม้จากเรืออับปางและทันใดนั้นเขาก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรกลางท้องทะเลเป็นครั้งแรก ก่อนที่หนังจะตัดไปที่เสียงเล่านิทานปรัมปราจากเมซีเด็กสาวในบ้านเด็กกำพร้าที่ใฝ่ฝันในวิถีแห่งนักล่าอสูร และโชคชะตาก็เข้าข้างเธอเมื่อเรือล่าอสูรนาม ‘Inevitable’ มาจอดเทียบท่าเพื่อเคลมเงินรางวัล งานนี้เธอจึงแอบลักลอบขึ้นเรือในตำนานและได้พบกับเจคอบ ฮอลแลนด์ ฮีโรในหนังสือของเธอ

แต่หลังจากเหตุการณ์อสูรแดงคำรามบุกเรือจนทำให้เมซีกับเจคอบระหกระเหินอยู่กลางทะเล ดูหนังฟรี พวกเขากลับได้พบมิตรภาพที่ไม่คาดคิดจากอสูรที่พวกเขาเคยกลัว การผจญภัยครั้งใหม่ระหว่างอสูรแดงคำรามและนักล่าอสูรกับเด็กน้อยได้เริ่มขึ้นท่ามกลางอันตรายจากเรือนักล่าอสูรที่อาจไม่เข้าใจในมิตรภาพครั้งนี้

ถึงแม้จะเป็นแอนิเมชันที่เน็ตฟลิกซ์เป็นเจ้าของทุนเอง ดูหนังออนไลน์ แต่ทีมงานเบื้องหลังก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่แต่อย่างใด เพราะได้ คริส วืลเลียมส์ (Chris Williams) ผู้กำกับแอนิเมชันลูกหม้อดิสนีย์ (Disney) ที่เคยมีผลงานกำกับ ‘Big Hero 6’ มาแล้ว และก็ต้องยอมรับว่าวิลเลียมส์สามารถผสมผสานหนังแนวผจญภัยกลางท้องทะเลกับสัตว์ประหลาดไคจูบุกเมืองเข้ากันอย่างกลมกล่อมลงตัว เล่าเรื่องราวได้สนุกสนาน บันเทิง ดูหนัง  ไม่ค่อยมีช่วงน่าเบื่อสักเท่าไหร่ได้ดีเลยล่ะ

โดยจุดเด่นของเรื่องราวที่วิลเลียมส์ได้ร่วมเขียนส่วนหนึ่ง

The Sea Beast อสูรทะเล (2022)

ก็คือการพิสูจน์และตั้งคำถามกับธรรมเนียมของประวัติศาสตร์ที่มักยกมนุษย์เป็นฮีโรผู้กอบกู้โลก หรือกระทั่งเขียนให้ชาวอารยันหรือกลุ่มคนขาวเป็นวีรบุรุษดังนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของเน็ตฟลิกซ์ที่ชอบให้ตัวเอกมีชาติพันธุ์ที่หลากหลาย แต่การให้ตัวเอกเป็นสาวน้อยผิวสีก็ถือว่าเล่าเรื่องได้ร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังให้คาแรกเตอร์ของเด็กดูฉลาดกว่าผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เลยทำให้ภาพรวมของหนังออกมาน่ารัก ดูได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

บอกก่อนเลยว่ากดเข้าไปดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก และสิ่งที่ได้กลับมามันค่อนข้างเกินคาดมากๆ กลายเป็นว่าสนุกเฉย และที่สำคัญภาพสวยมากๆ มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า เริ่มที่เรื่องบทกันก่อน บทของเรื่องนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ไม่ได้เห็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีบทกลมกล่อมแบบนี้มานานแล้ว คือบทมันค่อนข้างละเอียด และครบรสพอสมควรเลย ตอนแรกคิดว่าจะต้องเป็นการ์ตูนขายเด็กแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าผู้ใหญ่ก็ดูได้ เพราะบทไม่ได้อ่อนหรือเน้นแต่ความสนุก แต่บทยังน่าติดตามและมีจุดน่าสนใจไม่น้อยเลย ส่วนตัวผมว่าบททำออกมาได้ดีแล้ว ไม่มีอะไรจะติมากมาย บทกำลังดีเลย ไม่ลึกเกินไปและไม่ตื้นเขินจนเกินไป ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน เรื่องราวน่าติดตาม ดำเนินเรื่องได้ดี ไม่เร็วไปไม่ช้าไป เล่าเรื่องเข้าใจง่าย กระชับ ไม่มีส่วนไหนที่รู้สึกเบื่อเลย ในส่วนนี้ก็ไม่มีอะไรจะติเช่นกัน

นี่คือผลงานล่าสุดของอดีตลูกศิษย์จาก วอลต์ ดิสนีย์ อย่าง “คริส วิลเลียมส์” ผู้ที่เคยสร้างหนังปัง ๆ อย่าง Bolt หรือ Big Hero 6 ออกมาเป็นที่น่าจดจำนั่นเอง โดยในครั้งนี้เขายังคงควบหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังด้วย แม้ว่าจะมาพร้อมกับองค์ประกอบของสูตรสำเร็จแบบจำเจเดิม ๆ ในหมวดหนังแอนิเมชั่นก็ตาม เหมือนกับนำเอานิทานและตำนานคลาสสิกต่าง ๆ มาปรุงแต่งใหม่ ออกมาเป็นรสชาติที่ยังกลมกล่อมกำลังพอดี

น่าประหลาดใจไม่น้อย

The Sea Beast อสูรทะเล (2022)

ที่ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนังหรือทีเซอร์ตัวอย่างหนังของ The Sea Beast ไม่ค่อยจะดึงดูดใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ เพราะภาพที่ออกมาเหมือนจะเป็นหนังแอนิเมชั่นเด็ก ๆ ธรรมดาทั่วไป แต่วลีที่ว่า “อย่าตัดสินจากเพียงแค่ภายนอก” น่าจะเหมาะกับหนังเรื่องนี้ เพราะเนื้อในและเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ และสนุกกว่านี่คาดหมายเอาไว้เลยทีเดียว

อีกจุดที่น่าคิดไม่น้อยคือการยกประเด็นของกษัตริย์มาพูดถึงในแง่องค์อุปถัมภ์การล่าปีศาจที่มองได้ตั้งแต่การเป็นชนชั้นปกครองที่ใช้ความกลัวเลี้ยงอำนาจตัวเองไปจนถึงการก่อระบบศักดินา ซึ่งมีเนื้อหาตอนหนึ่งที่ราชินีพูดถึงกองเรือล่าปีศาจของกษัตริย์เพื่อหวังจะดับฝันและไม่ต้องพึ่งพาเหล่านักล่าปีศาจอาชีพอีกต่อไป จนเกิดการแข่งขันล่าปีศาจขึ้นระหว่างเหล่าตัวเอกกับทหารของกษัตริย์ ซึ่งหากหนังเล่นประเด็นไปไกลกว่านี้เราอาจได้เห็นการวิพากษ์ระบอบการปกครองที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่กระนั้นตัวหนังเองก็ยังติดเรื่อง ‘ท่าบังคับ’ หลายอย่างที่พามันไปไม่ถึงจุดที่จะทำให้ตัวหนังน่าจดจำกว่านี้ทั้งเหตุผลที่เปลี่ยนใจให้เจคอบผูกมิตรกับอสูรทะเล ที่อาศัยแค่ความไร้เดียงสาของเมซี หรือกระทั่งจุดที่น่าเสียดายมาก ๆ อย่างคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจของลูกเรือ ‘Inevitable’ อย่างซาราห์ ชาร์ป ต้นหนเรือสาวสุดเท่ที่มีบุคลิกดูห้าว ๆ และน่าจะเป็นภาพลักษณ์ของฮีโรผู้หญิงในเรื่องได้แต่บทกลับยังดันคาแรกเตอรนี้ไปได้ไม่สุดเท่าไหร่

ต่อมาด้านงานภาพ The Sea Beast อสูรทะเล (2022) 

ส่วนนี้คือ 10/10 จริงๆ งานภาพดีงามจนละสายตาไม่ได้เลย ทั้งแสง เงา รายละเอียดต่างๆ ทุกอย่างละเอียดยิบ และเวลาฉากสู้กับอสูรกลางทะเลนี่คือสุดมาก ออกแบบฉากแอ็คชั่นได้ดีงามมาก ละอองน้ำ การเคลื่อนไหวของน้ำ ทำได้ดีจริงๆ ละเอียดทุกเฟรม บอกเลยใครชอบอนิเมชั่นงานภาพสวยๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน

รับประกันเลย การออกแบบตัวละครก็ดีงามมากๆ ทุกตัวมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ คือเรื่องนี้เรียกได้ว่าคุณภาพระดับฉายโรงภาพยนตร์เลย ถ้าเอาไปฉายก็ไม่น่าเจ๊ง เพราะมันดีงามทุกด้านจริงๆ ทุกอย่างกำลังดี เคมีของตัวละครหลักทั้ง 2 ก็ดีงามเช่นกัน วางพื้นหลังตัวละครมาดี ไม่มีอะไรจะติเลย

แต่กระนั้นหากเทียบกับคุณภาพแอนิเมชันในภาพรวมนอกจากบทหนังที่เล่าได้สนุกสนานตามท้องเรื่อง ฉากแอ็กชันที่ทำได้ตื่นตาและรวมไปถึงงานภาพที่ได้คุณภาพไม่ต่างจากแอนิเมชันฉายโรงผสมบางช่วงตอนที่คล้ายภาพจากวิดีโอเกมคุณภาพสูงแล้ว ข้อเสียที่กล่าวมาก็อาจไม่ได้ส่งผลกับตัวหนังสักเท่าไหร่เพราะในเวลา 115 นาทีมันก็ให้ทุกอย่างครบถ้วนทั้งความสนุกสนานจากฉากผจญภัย ความน่ารักของอสูรตัวน้อยที่มองนาน ๆ อาจใจละลายก็พอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้แม้ตอนจบของมันจะไม่ได้เหนือความคาดหมายหรือแปลกใหม่เท่าไหร่ก็ตาม

สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจมาก ๆ ก็คือเทคนิคงานสร้างในหนังเรื่องนี้ The Sea Beast อสูรทะเล (2022) 

แม้ว่างานออกแบบตัวละครและคาแรกเตอร์มนุษย์ในหนังจะทำออกมาได้ค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ผู้ชมก็ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับงานออกแบบสร้างฉากแอคชั่นสู้รบ รวมทั้งฉากธรรมชาติ-ท้องทะเลที่สมจริงแบบชวนขนลุกไม่น้อย นับตั้งแต่เปิดฉากแรกออกมาของหนัง

ขณะที่งานออกแบบอสูรต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ อาจจะไม่ได้น่าเกรงขามจริงจังอะไร เพราะนี่คือหนังแอนิเมชั่นผจญภัยสดใสเรื่องหนึ่ง ทำให้เหล่าอสูรใหญ่ยักษ์ในเรื่องนี้อาจจะไปในทางแต่งเติมเสริมจินตนาการมากกว่า ให้อารมณ์เป็นความน่ารักน่ากอดประมาณนั้น เพราะหากว่าหนังเรื่องนี้ดังขึ้นมา ก็น่าจะสามารถนำเอาไปแตกยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์คาแรกเตอร์ต่าง ๆ ออกมาให้น่าจดจำและขายได้เลย

เปิดเรื่องมาได้อย่างน่าตื่นเต้น เพราะฉากสู้รบกลางสมุทรที่น่าประทับใจ ให้อารมณ์เหมือน ๆ กับแฟรนไชส์หนังดังอย่าง Pirates of the Caribbean อะไรทำนองนั้นเลยทีเดียว แม้ว่าอาจจะน่าเสียดายที่หนังค่อนข้างยืดยาวไปสักหน่อย หนังการ์ตูนที่มีความยาวเกือบจะ 2 ชั่วโมง น่าจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ซื้อใจเฉพาะเด็ก ๆ แน่ แต่กระนั้นก็พลอยทำให้การเดินเรื่องในยาวกลาง ๆ ค่อนข้างช้าและเนือยไปสักหน่อย เมื่อมาอยู่กับพล็อตปรุงสำเร็จแบบเดิม ๆ

หากใครยังจำได้ดี ในช่วงปี 2010 ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่างค่าย DreamWorks Animation

ก็ได้ปล่อยภาพยนตร์แอนิเมชันสุดเท่เรื่อง How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) ออกมาให้ผู้ชมได้ลิ้มรสตำนานไวกิ้งกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งในปี 2014 เรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ก็กลับมาฉายโรงเรียกยอดคนดูได้อีกครั้งด้วยธีมเรื่องสุดกาวไม่ต่างจากภาคแรก โดยทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาไม่มีความยึดโยงใด ๆ กับเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งค่ายผู้สร้างและผู้กำกับ รวมไปถึงนักแสดงผู้ให้เสียงพากย์ในเรื่องด้วย

แต่เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว อาจทำให้ใครหลายคนเริ่มย้อนกลับไปคิดถึงเนื้อเรื่องของ How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) และเรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ว่าทั้ง 2 เรื่องนั้นเป็นแอนิเมชันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งธีมหลักของเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) ด้วยแล้ว

อาจกล่าวได้ว่าไม่มีการนำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่หรือแตกต่างไปจากขนบเดิม ๆ อย่างที่แอนิเมชันหลาย ๆ เรื่องเคยทำมาก่อนเลย แต่ใช่ว่าการสร้างสรรค์ผลงานจากสูตรสำเร็จจะเป็นเรื่องที่แย่ หากเรื่องราวเหล่านั้นถูกเล่าและถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และ The Sea Beast (อสูรทะเล)

ก็ทำออกมาได้ดีอย่างที่โปรโมตไว้ในตัวอย่าง โดยการนำพาผู้ชมเข้าถึงแก่นหลักของภาพยนตร์อย่าง “ความเข้าใจผิด” ได้อย่างถ่องแท้ แต่อาจจะมี Mood And Tone ของเรื่องที่เอนเอียงไปทาง How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) เสียมากกว่า เนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องด้วยคีย์เวิร์ดหลักอย่างคำว่า “ตำนาน” ผสมผสานอยู่ด้วย

Director

Director

Cast

Similar titles

The Secret of Moonacre (2008) อภินิหารมนตรามหัศจรรย์
In a Valley of Violence คนแค้นล้างแดนโหด
Terminator 1 ฅนเหล็ก 2029 ภาค 1
A Man Called Hero (2022) เรียกข้าว่าฮีโร่
X-Men 8 Apocalypse เอ็กซ์ เม็น อโพคาลิปส์
The Rock (1996) เดอะ ร็อก ยึดนรกป้อมทมิฬ
Waltair Veerayya (2023) ข้ามทะเลไปจับโจร
Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้
Goal Club (2001) เกมล้มโต๊ะ
Journey to the West The Demons Strike Back ไซอิ๋ว 2017 คนเล็กอิทธิฤทธิ์ใหญ่
Friend (2001) มิตรภาพไม่มีวันตาย
Outlaw King กษัตริย์นอกขัตติยะ

Leave a comment