What's happening?

Video Sources 281 Views Report Error

  • Watch trailer
  • Interstellar ทะยานดาวกู้โลก
Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

USA169 นาที Min.PG-13
Your rating: 0
6 1 vote

Synopsis

Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

เมื่อโลกเข้าสู่ห้วงสุดท้ายในยุคเรา ทีมนักสำรวจต้องรับภารกิจที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยการเดินทางสู่กาแล็กซีอันไกลโพ้น เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ว่าในอนาคตมนุษยชาติอยู่ท่ามกลางดวงดาวได้หรือเปล่า ผลงานจากผู้สร้างฯ ชื่อดัง คริสโตเฟอร์ โนแลน (ภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight, Inception) Interstellar นำแสดงโดยแมทธิว แม็คคอนอเฮย์ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

เจ้าของรางวัล Oscar (Dallas Buyers Club), แอนน์ แฮทธาเวย์ (เจ้าของรางวัล Oscar Les Miserables),  ดูหนังฟรี เจสสิก้า แชสเทน ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (Zero Dark Thirty), บิล เออร์วิน (Rachel Getting Married), เอลเลน เบอร์สติน เจ้าของรางวัล Oscar (Alice Doesn’t Live Here Anymore) และไมเคิล เคน เจ้าของรางวัล Oscar (The Cider House Rules) นักแสดงคนสำคัญคนอื่นยังรวมถึงเวส เบนต์ลีย์, แคซีย์ เอฟเฟล็ค, เดวิด ไกอาซี่, แม็คเคนซี่ ฟอย และโทเฟอร์ เกรซ

กำกับฯ โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

เขียนบทฯ โดย โจนาธาน โนแลน และคริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์เรื่อง Interstellar อำนวยการสร้างฯ โดย เอ็มม่า โธมัส, คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ลินดา ออบต์ อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย จอร์แดน โกลด์เบิร์ก, เจค ไมเยอร์ส, คิป ธอร์น และโธมัส ทุล ดูหนังออนไลน์ 

รอคอยและตั้งตารอกันมานานหลายเดือน ดูหนังผจญภัย ในที่สุดก็ได้เวลาแห่งการรับชมอีกผลงานจากผู้กำกับระดับตำนานยุคใหม่ของฮอลลีวูด Christopher Nolan หลังสร้างผลงานระดับเอกอุเป็นที่ลือลั่นกล่าวขวัญถึงกันไปทั่ว คราวนี้เขามาพร้อมกับหนังไซไฟผจญภัยนอกอวกาศที่ชื่อว่า ‘Interstellar’ หรือชื่อไทย ‘ทะยานดาวกู้โลก’

นับว่าเป็นโชคดีที่ผมได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในแบบ IMAX ฟิล์ม 70mm. จอยักษ์ที่สุดในประเทศไทย โรงเดียวที่ฉายแบบฟิล์มและเป็น 1 ใน 50 โรงทั่วโลกที่ได้ฉายในระบบนี้ ได้เห็นภาพอันเกิดจากจินตนาการมนุษย์บนจอยักษ์ที่ได้ภาพเต็มจากบนสุดจนถึงล่างสุดของจอเกือบตลอดเรื่อง ได้อรรถรสของการท่องอวกาศที่ยังไม่มีหนังเรื่องไหนจะก้าวไปถึง เมื่อมนุษย์เลือกจะหาที่ทางใหม่ตั้งรกราก หลังพบว่าโลกนี้กำลังมีสภาพไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของมนุษย์มากขึ้นทุกทีๆ

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นชายชาวไร่

Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

เป็นพ่อของลูกชายหนึ่งและลูกสาวอีกหนึ่ง ที่เราได้พบในเวลาต่อมาว่า เขาไม่ได้เป็นแค่ชาวไร่ หากเป็นวิศวกรที่ในโลกปัจจุบันนั้น อาชีพวิศวกรดูไร้ประโยชน์ เพราะภาวะขาดอาหาร ไนโตรเจนสูง ออกซิเจนลดต่ำลงทุกที อีกทั้งยังมีพายุฝุ่นที่พัดแรง แต่ผู้คนไม่ได้รับรู้ว่า มีคนกลุ่มหนึ่งที่เฝ้าทำการทดลองสุดยิ่งใหญ่เพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ

เมื่อผู้เป็นพ่อต้องพรากจากลูกสาวสุดที่รักไปไกลแสนไกลอย่างที่ไม่รู้วันกลับ และไม่อาจบอกเหตุผลที่แท้จริงได้ มันช่างเจ็บปวดใจยิ่งนักเมื่อสื่อสารกันได้เพียงนานๆ ครั้ง หลงเหลือไว้แต่ความไม่เข้าใจกัน แม้รู้ว่าลูกสาวฉลาดแค่ไหนแต่ภาระหน้าที่ต่อมนุษยชาติและตัวตนความเป็นนักบินอวกาศมันบอกให้ทำสิ่งที่สำคัญกว่า กระนั้น ความรักครอบครัวอันเป็นอารมณ์ของมนุษย์ก็ไม่เคยจากไปไหน

เมื่อรู้แบบนั้นแล้วจึงได้มีการเริ่มต้นสำรวจดาวดวงใหม่เพื่อหาโอกาสความเป็นไปได้ที่จะย้ายชาวโลกไปอาศัยอยู่ที่นั่น เมื่อเนื้อหาเข้มข้นถึงขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีฉากลุ้น ซึ้ง ดราม่า มาเรียกอารมณ์ความประทับใจ ซึ่งฉากซึ้งกินใจของเรื่องนี้ก็แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครให้เราได้อินตามกันจนน้ำตาท่วมทุ่งเอาได้ง่ายๆ เล่นกับความเป็น ความตาย ที่ลุ้นระทึกจากภัยธรรมชาติ ทั้งในโลกและนอกโลก รวมถึงความสิ้นหวังแบบสุดๆ ที่สามารถเกิดได้จริงในชีวิตเรานับจากนี้ไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า

มีผู้กำกับเพียงไม่กี่คนที่หลงใหลในการติดตามอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลน แม้ว่าInterstellarจะไม่ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หรือประสบความสำเร็จทางการเงินเท่ากับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา แต่แฟน ๆ ของ Nolan หลายคนยังคงถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาลแมทธิว แม็คคอนาเฮย์แสดงเป็นชายผู้ไม่เต็มใจที่จะทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลังเพื่อเข้าร่วมภารกิจอวกาศเพื่อค้นหาดาวเคราะห์ที่เหมาะสมสำหรับมนุษยชาติ ด้วยภาพที่สวยงาม เรื่องราวที่ซับซ้อน และการแสดงที่ยอดเยี่ยมInterstellarถูกมองว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของไซไฟสมัยใหม่

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกใบเดิมที่เราอยู่ทุกวันนี้

Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

เริ่มเกิดวิกฤตแห้งแล้ง พืชล้มตาย ฝุ่นเต็มบ้านเมือง เหลือเพียงข้าวโพดที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งต้องยอมรับว่าหนังนำเสนอส่วนนี้ในช่วงต้นเรื่องได้ดีในระดับหนึ่ง มีการเก็บรายละเอียดในเรื่องของความเป็นอยู่ของผู้คนว่าชีวิตพวกเขาแตกต่างจากโลกปกติตอนนี้อย่างไร ง่ายๆมันก็คือใกล้วันสิ้นโลกนั้นแหละ แต่ตัวหนังนำเสนอออกมาให้ดูมีสมจริงและความเป็นไปได้ ไม่ใช่จู่ๆโลกระเบิดอะไรทำนองนั้น และแม้แต่นักบินอวกาศอย่างพระเอกก็ยังต้องมาทำไร่ ทำสวน เพื่อความอยู่รอด แต่แล้ววันหนึ่ง NASA ก็ค้นพบว่าพืชเผ่าพันธุ์สุดท้ายอย่าง ข้าวโพด ใกล้จะดับสูญไปในอีกไม่ช้า และรุ่นลูก รุ่นหลานของพระเอกก็จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่บนโลก ภารกิจค้นหาดาวดวงใหม่จึงเริ่มขึ้น

ในเรื่องของการนำเสนอ ช่วงแรกจะดูปูเรื่องเยอะไปหน่อย อาจมีง่วงกันบ้าง แต่ก็ไม่น่าเบื่อขนาดนั้น พอมากลางเรื่องก็เริ่มจะมีอะไรให้กระแทกอารมณ์คนดูกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะฉากตอนบอกลาลูกเนี่ย นักแสดงเล่นจนทำให้ผมน้ำตาแทบคลอ ไปจนถึงฉากเปิดดูข้อความตอนลูกโตขึ้น และเหตุการณ์ช็อคโลกอีกมากมายในด่านข้างหน้า ที่เรียกว่าอลังการล้นจอ จนถึงช่วงสุดท้ายของหนังที่พีคโคตรๆ ชนิดติดตายากจะลืมเลือน ไหนจะมีเซอร์ไพรส์นักแสดงที่มีผลต่อเนื้อเรื่องพอสมควร กับฉากที่คุณจะต้องร้อง WTF!? และสะดุ้งจนแทบถีบเบาะนั่งข้างหน้าเลยแหละ

ต้องขอบอกว่าลายเซ็นต์การกำกับของโนแลนแกไม่ใช่นิ่งๆแล้ว

มาตรฐานของแกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แตกต่างกันออกไปทุกแนว โดย Interstellar นี้ ถือว่าเป็น 1 ในหนังของโนแลน ดูง่ายที่สุด(?) เพราะถ้าหากเราเข้าใจเรื่องที่ตัวละครสื่อสารกันในหนังดีๆ ก็ไม่มีอะไรค้างคาในหัวกลับบ้านไปแบบ Inception แน่นอน นอกเสียจากว่าคุณจะเป็นคอไซไฟที่ตั้งคำถามต่างๆนาๆถึงสิ่งต่างๆในจักรวาลหนังเรื่องนี้ ซึ่งผมก็คิดเช่นนั้นครับ ยังมีคำถามอีกมากมายในจักรวาลของ Interstellar เพราะหนังมันพาเรา ไปไกล กว่าที่มันเป็นมาก เรียกว่าเปิด/ขยายจักรวาลใหม่ของโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้

และที่จะลืมไม่ได้อีกก็คือเจ้าหุ่นยนต์ TARS กับ CASE ที่เป็นตัวขโมยซีนของเรื่อง แม้บทอาจจะไม่มาก โผล่ๆหายๆบ้าง แต่คุณจะหลงรักความเป็นกันเองของมันมาก และความกวนโอ๊ยชนิดอยากทุบทิ้งเลยทีเดียว โดยเฉพาะบทที่คุยกับซะพระเอกส่วนใหญ่เนี่ย ถึงแม้ดีไซน์จะไม่โดนมาก แต่ประโยชน์ของมันล้นหลามจริงๆนะ

จากที่ถามความเห็นคนที่ไปดูมาด้วยกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หนังเรื่องนี้มันเหมือนกับ Documentary หรือสารคดี ที่มีเนื้อเรื่องนั่นแหละ คุณอาจได้ความรู้บางอย่างกลับบ้านไป เหมือนมาเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ที่มีความบันเทิงเต็มรูปแบบ

หนังเป็นอารมณ์แบบยัดเยียดทฤษฎี Interstellar ทะยานดาวกู้โลก

โยน ๆ ทฤษฎีตูมๆๆๆให้เห็นภาพ ให้ไปศึกษาต่อ ในแง่มุมหนึ่งมันก็ดี อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณโนแลนที่ทำให้คนตื่นตัวด้านวิทยาศาสตร์ เพราะมันแมสเข้าถึงวงกว้าง ไม่ค่อยรู้สึกถึงความเป็นหนังผจญภัยสำรวจดาวและอวกาศสักเท่าไร รู้สึกแค่ว่ามันเป็นหนังโยนทฤษฎีตูมๆๆๆๆ แบบผ่าน ๆ แบบไม่ได้กะให้คนดูเข้าใจนอกเสียจากจะไปศึกษาต่อหรือมีความรู้อยู่แล้ว ในขณะที่ Close Encounters of the Third Kind, Contact ก็เป็นหนังไซไฟที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์สูงมาก แต่สองเรื่องนี้เรากลับเข้าถึงเนื้อหาเพราะหนังใส่ใจกับรายละเอียดเพื่อบอกเล่าเรื่องราว

กว่าครึ่งของหนังต้องขอบคุณ Hans Zimmer เพราะหนังพึ่งดนตรีประกอบเร้าอารมณ์แทบจะทุกฉากที่ต้องการขับความดราม่าหรือลุ้นระทึก ในขณะที่ 2001 A Space Odyssey ไม่ต้องพึ่งมันเลย การสื่อถึง “ความรัก” ในหนัง ซึ่งแม้มันจะไม่มีความลึกของความรัก แต่ผมชอบในบางแง่มุมว่า “ความรัก” มันเป็นสัญชาตญาณที่อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกว่าเราผูกพัน ว่าเรามีอะไรจูงใจให้ไปต่อด้วยความรัก มันอยู่เหนือเหตุผลไปแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ในหนังไซไฟมันน่าสนใจดีนะ ถ้าเจาะเข้มกว่านี้

Original title Interstellar ทะยานดาวกู้โลก
IMDb Rating 8.6 413 votes
TMDb Rating 352 427 votes

Director

Director

Cast

Similar titles

Arrival ผู้มาเยือน
Happy Anniversary สุขสันต์วันเลิกรา
TROLL (2022)
The Twilight Saga 3 Eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3
Outcast อัศวินคู่ กู้บัลลังก์
A Street Cat Named Bob (2016) บ๊อบ แมว เพื่อน คน
Shoot ‘Em Up ยิงแม่งเลย
Flying Swords Of Dragon Gate พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์
American Hangman อเมริกัน แฮงแมน
The Mustang
The Karate Kid Part Season 3 ( คาราเต้ คิด ภาค 3 )
Aliens vs. Predator: Requiem สงครามฝูงเอเลี่ยนปะทะพรีเดเตอร์ 2

Leave a comment