Along With the Gods The Two โดยหนังจะเล่าเรื่องของ คิม จาฮง (ชา แทฮยอน) นักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เขาถูกนำตัวไปยังปรโลกเคียงคู่กับเหล่าเทพผู้พิทักษ์ทั้งสาม คือ ผู้นำทีมเทพผู้พิทักษ์ คังลิม (ฮา จุงวู), เทพนักต่อสู้ฝีมือกล้าแกร่ง เฮวอนเมก (จู จีฮุน) และ เทพแห่งมันสมอง ดัคชุน (คิม ฮยางกี) นำไปสู่การผจญภัยฝ่าขุมนรกแห่งบาปทั้ง 7 ที่ทั้งมนุษย์และทวยเทพต้องยำเกรง ได้แก่ นรกแห่งบาปฆาตกรรม, นรกแห่งบาปเกียจคร้าน, นรกแห่งบาปหลอกลวง, นรกแห่งบาปอยุติธรรม, นรกแห่งบาปทรยศ, นรกแห่งบาปความรุนแรง, นรกแห่งบาปอกตัญญู ดูหนัง
เพื่อพิสูจน์ตัวตนให้ผ่านด่านพิพากษาจาก ราชันย์ยอมรา (รับบทโดย อี จุงแจ) เทพแห่งนรก เพื่อจะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายในกำหนดเวลา 49 วัน และในขณะเดียวกันเพื่อตามล่าสืบค้นเบื้องหลังปริศนาในตัวของ คิม จาฮง เหล่าเทพผู้พิทักษ์จึงต้องเดินทางมายังโลกของมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของชีวิตที่พวกเขากำลังปกป้อง
ชอบฉากความทรมานของนรกแต่ละชั้นมาก คือทำออกมาได้สื่อกับชั้นของนรกชั้นนั้นๆ ดูยิ่งใหญ่และน่ากลัวมากถ้าต้องไปเจออะไรแบบนั้น อย่างเช่น นรกแห่งบาปเกียจคร้าน ฉากวงล้อยัก ถ้าใครไม่วิ่งก็จะโดนทับตาย ใครโดดหรือตกลงไปในน้ำก็โดนกัดตาย, นรกแห่งบาปความรุนแรง ก็จะโดนก้อนหินกระแทกทรมานวนเป็นวงกลมอยู่อย่างนั้น
ถ้าดูจากหน้าปกหนังใครๆก็คิดว่ามันต้องเป็นหนังแอคชั่น แฟนตาซี ผจญภัยประมาณนั้น แต่พอเอาเข้าจริง เปิดเรื่องมาหนังเข้าเรื่องเร็วมาก ไม่ต้องท้าวความอะไรให้ยืดยาด พอดูๆไปหนังจะพยายามเฉลยถึงสิ่งที่เราสงสัยออกมาทีละหน่อย เหมือนจะเป็นอย่างที่คิดว่ามันต้องแอคชั่นแน่ๆ พอดูไปดูมา เอ้า! หนังกลับมีความดราม่าซะงั้น ไม่ใช่ดราม่าธรรมดานะ ดราม่าโคตรหนักหน่วงตลอดทั้งเรื่อง
ตอนที่ได้เห็นเรื่องราวของ จาฮง ในฉากย้อนความทรงจำตอนที่ทะเลาะกับน้อง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดว่าเป็นเรื่องทะเลาะของพี่น้องธรรมดาแหละนะ หลังจากนั้นก่อนจะไปนรกแห่งบาปอกตัญญู คือช๊อกมาก จากฉากที่น้องจาฮงเล่าให้เทพผู้พิทักษ์ คังลิมฟัง ซึ่งเทพแห่งมันสมอง ดัคชุนเองก็เอ่ยขึ้นมาถาม
คือแบบว่าเฮ้ยจาฮงจะฆ่าแม่ทำไมวะ อะไรยังไง มันต้องมีเหตผลสิ คือแบบมิน่าละนรกชั้นนี้ถึงมาอยู่ลำดับสุดท้าย แล้ว จาฮงจะรอดมั้ยวะเนี่ยจะพีคไปใหนวะเนี่ย และถึงแม้เขาเองจะแก้ต่างว่าไม่ได้อยากฆ่าแม่แค่คนเดียวแต่อยากฆ่าทุกคนรวมถึงตัวเขาด้วยเพราะทนกับโชคชะตาของครอบครัวไม่ได้ ทั้งแม่เองก็ป่วยหนักมาก ทั้งตัวเองกับน้องก็คอยเป็นภาระให้แม่ หนังใหม่
ตอนแรกก็ว่าพีคพอละนะ หลังจากที่ไปถึงนรกแห่งบาปอกตัญญู โอ๊ยยยช๊อกอีกแล้วครับท่าน พีคในพีค คือฉากที่ราชันย์ยอมรา ให้จาฮง เห็นว่าความจริงแล้วแม่เขาเองก็รู้ตัวตอนเขาจะฆ่าแม่ตัวเอง คือแบบบฉากนี้ โอ้โหเฮ้ย ไรไรวะเนี่ย ดราม่าซ้อนดราม่า น้ำตาแตกสุดๆอะคือแบบสะอึกสะอื้น ร้องให้โฮออกมาเลย อะไรจะเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้นะบีบหัวใจมากๆ ขนาดนั่งดูยังรู้สึกเจ็บแทนมากๆ
จาฮงถึงกับเข่าทรุดยอมรับชะตากรรมเลยฉากนี้ เทพที่คอยช่วยเหลือจาฮงเองก็เป็นไปตามๆกัน แต่เฮ้ยมันจะจบแบบนี้หรอ แบบนี้ไม่ได้สิ แล้วฉากพีคสุดท้ายก็มาเมื่อน้องของจาฮง ได้ไปเข้าฝันแม่เพื่อบอกความจริงว่าตัวเองตายแล้วและจะมาลาแม่ไปอยู่บนสวรรค์ แล้วแม่เขาก็ตอบกลับมา ประมาณว่า แม่ให้อภัย เป็นเพราะแม่ผิดเองที่ให้ลูกทั้งสองได้ไม่ดีพอ โอ๊ยยยย เจ็บอีกแล้ว เจ็บจริงๆอันนี้ คราวนี้จากที่ร้องให้จากความเศร้ายังไม่หาย กลายเป็นร้องให้ต่อด้วยความซึ้งและเป็นอารมที่แบบว่าโคตรซึ้ง โคตรอบอุ่นเลยโคตรยิ่งใหญ่เลยความรักที่แม่คนนึงจะมีให้ลูกได้ อารมณ์ ณ ตอนนั้นมันไปหมดแล้ว พูดไม่ออก มันไหลไปกับน้ำตาหมดแล้ว
แต่ถึงจะมีดราม่าหนักหน่วง หนังก็ยังมีส่วนฮาๆ ตลกๆมาให้หายสะอึกสะอื้นปนๆกันไปอยู่บ้าง มุขแต่ละมุขส่วนใหญ่ก็เป็นมุขแบบเกาหลีมากๆอะ แบบว่าไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายให้มันฮาเลยนะ (ถ้าคนดูซี่รี่ย์เกาหลีมาเยอะจะพอเดาได้ว่ามันเป็นยังไง) ใช้แค่กริยาท่าทาง สีหน้าและการแอคติ้ง เออ มันฮานะเฮ้ย มันฮาจริงๆ
ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเร็ว ตรงใหนส่วนใหนที่คิดว่าคนดูน่าะรู้อยู่แล้วก็ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย หลายๆฉากหลายๆปมเป็นการดำเนินเรื่องในแบบที่ให้คนดูได้คิดตามว่าท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร บางส่วนที่ซับซ้อนหรือยากเกินไปที่จะคิดตามตัวหนังก็มีความผ่อนความเร็วลง เพื่อให้คนดูได้มีเวลาในการคิด และหายใจด้วยเช่นกัน หนังฟรี
ฉากแอคชั่นต่อสู้โคตรเจ๋งมาก ทั้งฉากต่อสู้ ฟันดาบ การใช้อาวุธต่างๆ ที่ตัวละครทุ่มเข้าใส่กันมันมีความเท่ มีความเป๊ะ มีความมาด ยิ่งได้พระเอกแถวหน้าอย่างจุงวู และจีฮุนมาเล่นในบทนี้แล้วคือแบบว่าเท่ Susๆ อย่างกะนีโอใน The Matrix อะ โอ๊ยยยย โคตรเท่ เท่ Shift หาย ฉากไล่ล่าก็ไม่ธรรมดานะ แต่ละฉากนี่จัดเต็ม (อย่างกับ Volcano High ศึกป่วนฟ้าโรงเรียน มหาเวทย์ + Man of Streel) คือแบบว่าแต่ละฉากโคตรเจ๋งทั้งมุมกล้อง ทั้งวิธีการเคลื่อนที่ วิธีการวาร์ปของเทพกับวิญญาณ ดูแล้วตะโกน Here ออกมาดังมาก โอยยย ส่วน ฉากทำลายล้างก็เล่นใหญ่ดีมาก ถึงแม้บางส่วน CG อาจดูลอยๆไปหน่อย แต่แทบลืมไปได้เลยเพราะได้ส่วนของความดราม่ามาบังไว้หมด ยกนิ้วให้เลยตรงนี้
การ์ตูนต้นฉบับแบ่งเป็น 3 ตอน Afterlife Life และ Myth ในเรื่องนี้หยิบตอน Afterlife มาสร้าง ซึ่งทางผู้สร้างก็มั่นอกมั่นใจนักหนาว่าหนังจะต้องฮิตถึงกับลงทุนสร้าง 2 ภาคต่อกันไปเลย Along With the Gods: The Two Worlds ออกฉายในเดือนธันวาคม 2017 และภาคต่อ Along With the Gods: The Last 49 Days จะออกฉายในช่วงฤดูร้อนปีหน้า ในภาคนี้เล่าเรื่องของ คิมจาฮอง บทของ ชาแตฮุน ที่ทำหน้าแบบจะร้องไห้หน้าเดียวทั้งเรื่อง เขาเป็นตำรวจดับเพลิงที่เปิดเรื่องมาก็ตายเลย ดูหนังฟรี
แต่เป็นการตายที่พลีชีพด้วยการช่วยชีวิตเด็กหญิงไว้ได้ วิญญาณของเขาจึงได้รับการสรรเสริญเป็นวิญญาณคนดีมียมฑูตมาต้อนรับไปปรโลก ตามระเบียบของปรโลกในเรื่องนี้ วิญญาณคนดีจะต้องผ่านขั้นตอนขึ้นศาลไต่สวนถึง 7 ศาล แต่ละศาลจะมีเทพเจ้าประจำศาลพิจารณาถึงบาปกรรมแต่ละอย่างที่เคยก่อมาตลอดชีวิต มีศาลว่าด้วยความเกียจคร้าน , โกหก , อกตัญญู อะไรอีกจำไม่ได้แล้ว ระหว่างอยู่ในศาลจะมีอัยการประจำปรโลก 2 นาย คอยหยิบบาปกรรมในอดีตมาฟ้องร้อง และยมฑูตทั้ง 3 จะทำหน้าที่ทนายแก้ต่างให้คิมจาฮอง ถ้าเขาพ้นผิดทั้ง 7 ศาลก็ได้ไปเกิดใหม่ทันที และเป็นความดีความชอบของยมฑูตทั้ง 3 เช่นกัน
เป็นพลอตที่น่าสนุกมากครับ สมควรล่ะ ที่ผู้สร้างมั่นใจเทงบให้สร้าง 2 ภาคเลย ตัวหนังอัดแน่นไปด้วยสาระและบันเทิง แต่ละศาลอัยการจะขุดความผิดของคิมจาฮองขึ้นมาเป็นภาพกระทำในอดีต ที่มองตามเหตุแล้วน่าจะเป็นผิดบาปจริงของเขา แต่ทุกการกระทำก็ได้ทนายยมฑูตเปิดเผยเหตุและผลในการกระทำ พลิกมุมมองอีกด้านให้เห็นถึงความจำเป็นและเข้าใจได้ถึงการกระทำนั้น ๆ เป็นไอเดียการนำเสนอที่ได้แง่คิดน่าสนใจ แต่เมื่อผ่านไปได้ 3 ศาล เส้นทางเรื่องก็เริ่มเบนออกทิศทาง
ใหม่เพิ่มฉากแอ็คชั่นเข้ามาเมื่อปีศาจร้ายจำนวนมากไล่ตามคิมจาฮอง เปิดโอกาสให้กังริม และ วอนมัค ได้ควงดาบโชว์ฟอร์มเท่ ๆ ในการต่อสู้ , กังริมหัวหน้ายมฑูตบอกว่าการที่มีปีศาจไล่ตามคิมจาฮองเพราะมีคนในครอบครัวเขากลายเป็นวิญญาณอาฆาต กังริม จึงเดินทางไปยังโลกมนุษย์เพื่อสืบหาว่าใครคือวิญญาณอาฆาต ในขณะที่ยมฑูตที่เหลือก็พาคิมจาฮองขึ้นศาลต่อไป
ด้วยเนื้อหาของหนังที่เกี่ยวกับความตาย วิญญาณต้องถูกพิจารณาคดีในนรกโลกันต์ และเป็นวิญญาณที่ยังมีห่วงภาระทั้งแม่และน้อง ซึ่งนับว่าเป็นเนื้อหาที่หดหู่หม่นหมองมาก แต่ผู้กำกับคิมยองฮวาเลือกที่จะไม่ให้หนังออกไปทางซีเรียสก็เลยใส่มุกเบี้ยใบ้รายทางมาทั้งเรื่อง ชาแตฮุนที่ติดภาพลักษณ์ของนายเจี๋ยมเจี้ยมมาตลอดแต่เรื่องนี้บทของเขาอมทุกข์สุด ๆ หน้าที่ชงมุกก็เลยตกเป็นของ จูจิฮุน ในบทยมฑูตเฮวอนมัก และบรรดาตัวประกอบทั้งเทพเจ้าประจำศาลและอัยการก็กลายเป็นตัวตลกกันหมดสิ้น ดูหนังออนไลน์
หนังก็เลยออกมาเป็นต้มยำที่ตอบไม่ได้ว่ารสชาติใดเด่นทั้งหนังว่าความขึ้นโรงขึ้นศาล แอ็คชั่น คอมมีดี้ และลงท้ายด้วยการบิลต์ฉากดราม่าแบบเอาจริงเอาจังทั้งตัวละครที่น้ำตาท่วมจอ ทั้งดนตรีที่เล่นใหญ่กะเอาตาย ซึ่งก็ได้ผลพอสมควรกับกลุ่มคนดูบ่อน้ำตาตื้น หนังยาวนานถึง 139 นาที รู้สึกได้ชัดว่ายาวเกินไป ช่วงกลางเรื่องก็ชวนหาวได้เหมือนกัน ตอนที่หนังเบนทิศทางไปเล่าเรื่องราวของ คิมซูฮง น้องชายของคิมจาฮงในค่ายทหาร กินเวลาไปมากและไม่ได้ส่งผลกับทิศทางหลักของเรื่องนัก แต่ดูเหมือนจะเป็นการปูทางไปเชื่อมกับเรื่องราวในภาคต่อ
มองเห็นได้ว่าทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญน่าจะหมดไปกับงานทำภาพซีจี เพราะค่อนเรื่องของหนังเกิดในปรโลก จำเป็นต้องใช้ภาพซีจีสร้างขึ้นมาล้วน ๆ งานซีจีเป็นผลงานบริษัททำซีจีของเกาหลีใต้เอง และด้วยงบประมาณที่น่าจะจำกัดด้วยส่วนหนึ่งและประสิทธิภาพของซีจีในระดับเอเซียด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าไปเทียบกับงานซีจีฮอลลีวู้ดก็ฟ้ากะเหวล่ะ ถ้าเป็นหนังที่มีซีจีโผล่มาเป็นน้ำจิ้มสักแว้บสองแว้บก็พอจะโอเคหรอกแต่นี่คือหนังแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยภาพซีจีแต่ขาดความเนียนทั้งเรื่องก็กลายเป็นแผลใหญ่ที่เลี่ยงไม่ได้
บวกกับงานกำกับศิลป์ที่อ่อนมาก เมื่อซีจีไม่ได้เป็นจุดแข็งแล้ว แต่ถ้าได้งานกำกับศิลป์ที่เก่งก็น่าจะมาช่วยกู้งานภาพให้ออกมาน่าสนใจได้ ผลก็เลยได้ภาพนรกที่ดูสว่างสดใส ศาลปรโลกก็ดูซอมซ่อไร้ซึ่งความน่ากลัว บรรดาเทพเจ้าแต่ละศาลก็ออกมาเหมือนตัวตลกไม่ได้ดูน่าเกรงขามสมกับเป็นเทพเจ้าผู้ทำหน้าที่ตุลาการเลยสักนิด ถ้านึกไม่ออกว่างานกำกับศิลป์แฟนตาซีที่ดูลึกลับน่ากลัวเป็นอย่างไร ให้นึกถึง The Cell หนังปี 2000 ของทาร์เซ็ม ซิงก์ครับ เป็นหนังฮอลลีวู้ดที่ใช้ทุนสร้างน้อยกว่าเรื่องนี้อีก