ทวงคืน (2022)
เรื่องราวของคู่รักยูทูปเบอร์ที่กำลังจะเลิกรา “ดิน” แดน วรเวช และ “พลอย” แพทตี้ อังศุมาลิน แต่ต้องแกล้งรักกัน เพื่อทำ Content ทายอินลูกค้า แหวนเพชรเม็ดเป้ง ระหว่างทาง หนังฟรี จับพลัดจับผลูมาเจอ “บริบูรณ์” บีม กวี ไลฟ์โค้ชพ่อลูกอ่อน
ที่ใช้ลูกช่วยทำมาหากิน หนังใหม่ และนำไปสู่เรื่องราวประหลาดระหว่างทาง ที่มี “ลุงพล” เต๋า สมชาย ชายลึกลับ ดูหนังผี ที่นำพาพวกเขาไปพบกับบ้านร้างเก่าแก่กลางทุ่งข้าวโพด ดูหนังออนไลน์ ที่มีรูปปั้นโบราณของชายนามว่า “ขุนอำมหิตตราชัย” เต๋า เศรษฐพงษ์ จนพบเจอเรื่องหลอนจากอดีตชาติ ที่รอคอยการ ทวงคืน บางสิ่ง จากพวกเขาในชาตินี้ ดูหนัง และตบท้ายด้วยมุมมอง ความรักชวนซึ้ง แบบหักมุม ที่คุณคาดไม่ถึง ดูหนัง
เรื่องล่าสุดของ ตัวพ่อสายโรแมนติกคอมเมดี้ แดน วรเวช ที่ทั้งกำกับเองและเล่นเอง จากสารตั้งต้น คือ ไวรัล “ทวงคืนแพทตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช” งานนี้แดนแกงตัวเอง ดูหนังฟรี สู่หนังที่จะทำให้คุณเดาทางไม่ออก ตั้งแต่เห็นตัวอย่าง
จากนักร้องบอยแบนด์แห่งยุค กลายมาเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์ และทุกวันเขาก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งคนสร้างหนังที่คลอดผลงานใหม่ ๆ ออกมาเสริมวงการหนังไทยเสมอ และนี่คือผลงานล่าสุดของ “แดน วรเวช” ที่ยังรักษาคอนเซ็ปต์แนวคิดและความเป็นตัวของตัวเขาเองเช่นเดิม ดูหนังออนไลน์ กลั่นกรองออกมาเป็น “ทวงคืน Fearless Love” หนังรักในท่วงทำนองของความเฮี้ยน ที่สารภาพตรง ๆ ว่าตอนแรกที่หนังโปรโมตออกมา ดูหนัง ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะเป็นหนังรัก หนังตลก หรือหนังบู๊ แต่สุดท้ายแล้ว มันคือหนังผีจ้าาาาา
ทวงคืน เป็นเรื่องราวของคู่รักยูทูบเบอร์ พลอย กับ ดิน คู่รักที่หลายคนอิจฉามากที่สุดในประเทศ แต่ความรักของพวกเขากำลังดำเนินมาถึงตอนจบ! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกสนั่นประเทศ เมื่อรับงานสุดท้ายจากสปอนเซอร์ที่จำเป็นต้องแกล้งรักหลอน ๆ ก่อนจะตั้งใจบอกเลิกกันไปเนียน ๆ ในคลิปสั่งลา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดวายป่วงและสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา
ว่าตกลงมันคือหนังอะไรกันแน่ ตัดทีเซอร์ออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นรอมคอม หนังออกมาอีกตัวมีกลิ่นหนังบู๊ แต่พอใบปิดโผล่ออกเท่านั้น สรุปว่าเป็นหนังผี เป็นหนังที่แกงฟิลลิ่งคนดูได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกฉาย และผลลัพธ์ที่ออกมานั้น…ไม่แกง แต่เกือบจะกลายเป็นความเละเทะปะปนทนดูไปตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของเรื่องที่แสนฟุ่มเฟือยเกินไป
ทวงคืน เป็นหนังที่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จู่ ๆ ก็มีการโปรโมทหนังเรื่องนี้อย่างงง ๆ ไม่รู้เรื่องราว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ขนาดดูตัวอย่างก็ยังไม่รู้ว่าตกลงหนังมันเกี่ยวกับอะไรกันแน่ มันดูจับฉ่ายมาก เป็นหนังผี หนังรัก หนังตลก ซึ่งพอได้ดูแล้วก็น่าผิดหวังจริง ๆ
หนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักที่ไม่รักกันแล้ว แต่ดันเป็น Youtuber ที่ต้องมารับถ่ายคลิปทำคอนเทนต์คู่รักด้วยกันอีก จนเรื่องราวมันจับพลัดจับผลูมาเจอไลฟ์โค้ช และนำพาไปพบกับหมู่บ้านสุดสยองที่ทั้งสามกำลังโดนทวงคืน!
ยอมรับว่าผิดที่เราส่วนนึงที่คาดคิดว่าหนังจะออกมาในอีกรูปแบบ จะเป็นแบบหนังโรแมนติกคอเมดี้ที่เป็นเรื่องราวระหว่างแดนกับแพทตี้ อารมณ์แบบ 32 ธันวา หรือ ส.ค.ส. สวีทตี้อะไรแบบนั้น แต่…มันดันออกมาเป็นแบบนี้ อะพอเราจับทางหนังได้ยอมรับตัวหนังว่าเป็นแบบนี้มันก็ยังไม่เวิร์คอยู่ดี
หนังมันมีความพยายามสูงมากในหลาย ๆ ด้าน อย่างแรกเลยคือเป็นหนังที่พยายามแบบพยายามเหลือเกินที่จะให้มันตลก ประดิษฐ์ถ้อยคำ การแสดง มุกต่าง ๆ เพื่อให้มันตลก แต่ประเด็นคือมันไม่ตลกไง มันตลกกับความไม่ตลกของหนังเรื่องนี้นี่แหละ หนังพยายามจะผสมผสานหลากหลายแนวเข้ามาด้วยกัน แต่มันไม่ดีสักอย่างเลย
หนังมันจับฉ่ายมากเหมือนอยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ได้คำนึงที่บท การส่งต่อเรื่องราว การปูเรื่องราว จังหวะต่าง ๆ มันพังมาก คือหนังเรื่องนี้พร้อมจะเกิดทุกอย่างได้ทุกเมื่อ มันก็ดำเนินเรื่องไปแบบนี้จนจบเลย มันจะมีความอิหยังวะตลอดทั้งเรื่อง จากความพยายามเหล่านั้น กลายเป็นความน่าเบื่อจนมันน่ารำคาญสำหรับเราไปเลย หนังความยาวถึง 2 ชั่วโมงนิด ๆ แต่ระหว่างทางกลับไม่มีอะไรจับต้องได้เลย
กับการแสดงนี่เล่นใหญ่มากถึงมากที่สุด เล่นใหญ่กว่าละครเวที เล่นใหญ่แบบมองจากดวงจันทร์ก็เห็นอะ คือเข้าใจว่าอยากถ่ายทอดให้ออกมาเป็นการแสดงแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ใหญ่ ๆ แต่เล่นแข็งมาก แข็งจนเราไม่รู้สึกต่อติดกับเรื่องราวและตัวละครไหน ๆ ในเรื่องเลยแม้แต่น้อย ยิ่งแสดงให้มันตลก รับส่งมุกให้มันตลก มันยิ่งกลายเป็นไม่ตลกเสียมากกว่า พอมาพาร์ทจริงจัง ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งเรื่องการแสดงที่ดูจริงและธรรมชาติที่สุดคือฉากสุดท้ายของแดนกับแพทตี้
แดน วรเวช มารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขยนบทหนังเรื่องนี้เอง โดยเขาหยิบเอาคอนเซ็ปต์ที่สังคมมักจะแอบแซวเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนสาวในชีวิตจริง อย่าง “แพทตี้ อังศุมาลิน” ที่เอาจริง ๆ นะ แค่การคิดหยิบเอาประเด็นนี้มาชูเป็นหนังก็ถือว่าไอเดียบรรเจิดดีแล้ว เป็นอะไรที่ท้าทายและเล่นกับสังคมกลุ่มหนึ่งได้อย่างน่าลิ้่มลอง เพียงแต่การตีโจทย์และนำเสนอของหนังจะออกมาเป็นอย่างไรเท่านั้นแหละ
ซึ่งผลสุดท้ายก็คือ ทวงคืน คือหนังที่หยิบเอาประเด็นดังกล่าวมาใช้ได้แทบจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ สุดท้ายมันก็เป็นแค่คำโปรโมตของหนังคำเดียวเท่านั้น เพราะเนื้อหาในหนังได้ฉีกไปอีกแทบ เต็มไปด้วยส่วนที่ขาด ๆ เกิน ๆ บางจุดก็เอ่อล้นเจิงนอง กับจังหวะที่ใส่เข้ามาแบบทีเล่นทีจริง ไม่สามารถหาจังหวะไหนที่จะหัวเราะได้เต็มสูบ หรือซึ้งสะกิดใจได้เลยสักเลย กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ใส่กลิ่นอาย (tone) และทิศทาง (setting) ไปทางสากล แต่ไม่นำไปสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จได้สักทาง
งานด้านโปรดักชั่นก็เหมือนจะเวิร์คแต่ก็ไม่เวิร์ค แสงสีเหมือนจะสวยแต่หลายซีนมันก็ฉูดฉาดจนเกินไป บางฉากก็มืดเกินจนแทบมองอะไรไม่เห็น มุมกล้องต่าง ๆ ก็มีการใช้มุมกล้องปกติ สลับกับมุมมองผ่านกล้อง Gopro หรือผ่านกล้องมือถือ ที่หลายฉากก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยด้วยซ้ำ
ใครที่จะไปเสพความหล่อเหลาของแดนหรือความน่ารักของแพทตี้ ก็แทบจะไม่มีฉากให้ชวนเขินชวนฟินหรือเซอร์วิสแฟนหน่อยเลย มันไม่ได้จริง ๆ อะ
ที่โอเคที่สุดคงจะเป็นเพลงประกอบ กับเพลง ตลอดไปแสนสั้นที่ขับร้องโดย แดน รวมถึงเพลง ทวงคืน ของ แพทตี้ ก็น่ารักดี เท่านั้นแหละ
สรุปแล้ว ทวงคืนเป็นหนังจับฉ่ายที่พยายามจะเป็นหลายอย่างแต่ทำได้ไม่ดีเลยสักอย่าง เป็นหนังตลกที่ไม่ตลกเช่นกัน ความพยายามที่มากเกินไปไม่ได้ส่งเสริมให้หนังฮาขึ้นเลยแม้แต่น้อย มีความครีเอทอยู่ในตัว แต่ถ่ายทอดออกมาได้พังมาก ๆ คงมีหลายคนชอบ แต่สำหรับเราไม่เลยสักนิด
ออกแบบมาได้ค่อนข้างพอใจ แต่หนังมาตกม้าตายทุกครั้งกับการใส่จังหวะที่ประดักประเดิดตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำร้ายคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครก็ช่างบิ้วท์ทำให้ดูน่ารำคาญใจมาก ๆ จะบอกตามตรงเลยว่า ช่วงครึ่งแรกของหนังนั้นเหมือนเป็นการจับคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ทั้ง 3-4 คนมาใส่เอาไว้รวม ๆ กัน แล้วก็เถียง ๆ คิด ๆ ไปคนละทาง ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ขับขันด้วยแล้ว แทนที่จะบิวท์อารมณ์ให้น่ากลัวกลับกลายเป็นน่ารำคาญแทน
แต่ก็ยังดีที่หนังได้ทีมนักแสดงที่ช่วยเอาไว้มาก ๆ โดยเฉพาะ แดน-แพทตี้ ที่คือคู่รักในชีวิตจริงอยู่แล้ว เขารู้จังหวะและการเข้าหาทางแสดงที่ดีของกันและกัน ทำให้ทุกอย่างดูไหลลื่นดี (ไม่นับอินเนอร์ที่น่ารำคาญของตัวละครที่ทั้งคู่ได้รับนะ) โดยเฉพาะในท้าย ๆ กับฉากอารมณ์ที่ทั้งสองผลัดกันสื่อสารกันไปมา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ก็น่าเสียดายว่าจุดดีเพียงเล็กน้อยเท่านี้นั้น ไม่สามารถลบล้างความสะเปะสะปะของหนังลงไปได้
ก็มาด้วยบทที่เหมือนมาเป็นตัวเสริมที่จริง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้ บางจุดก็ดูไปได้กับแคสติ้งของ แดน-แพทตี้ แต่บางจุดจะใส่เข้ามาเป็นเชื่อมก็ยังดูโดด ๆ และขัดแย้งชอบกล แม้จะใส่คาแรกเตอร์ของเขามาให้เป็นอีกตัวละครที่มีมิติอยู่ไม่น้อย แต่มันยังดูไม่ค่อยเข้ากับหนังเรื่องนี้ จะว่าเป็นส่วนเกินของหนังก็ไม่ใช่ แต่ก็ยังเป็นบทบาทที่ไม่เข้ากับหนังทั้งเรื่องนี้อีกอยู่ดี
เอาเป็นว่า..เราสรุปให้ทุก ๆ คนได้ทราบว่า ทวงคืนเป็นหนังผีแกมตลกนะทุกคน ใส่ปมความรักซึ้ง ๆ เข้ามาบางหน่อย โดยภาพรวมนั้นยังถือว่าหนังไม่ได้มอบรสชาติที่อร่อยสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอทานได้ แค่อาจจะต้องฝืนกลืนลงท้องไปสักนิด เพราะด้วยการหยิบเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ เข้ามาอย่างมากมายของหนังเรื่องนี้ ทำให้รสชาติยังไม่จัดจ้านและถึงที่สุดเพียงพอ เดี๋ยวหวาน เดี๋ยวเค็ม เดี๋ยวเผ็ด แบบสลับไปมาตลอด 2 ชั่วโมง